

.นักลงทุนชะลอการซื้อขาย รอดูรายงานเฟดชี้ทิศทางดอกเบี้ย
.บรรยากาศซื้อขายในตลาดหุ้นเบาบาง รับวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้าพรุ่งนี้
.ตลาดติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ยังชี้สับสน คนว่างงานครั้งแรกเพิ่มสูงกว่าคาด-ยอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่ม
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,152.49 จุด เพิ่มขึ้น
54.39 จุด หรือ +0.16% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,241.90 จุด เพิ่มขึ้น 67.49 จุด หรือ +0.60% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,019.77 จุด เพิ่มขึ้น 16.19 จุด หรือ +0.40%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวแคบ นักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ย.ในคืนนี้ เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ขณะที่เฟดกำลังปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ควบคู่ไปกับการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง
โดยที่ผ่านมา เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนพ.ย. ขณะที่นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปเร่งตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 0.8% ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 240,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 48,000 ราย สู่ระดับ 1.551 ล้านราย
ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะมีการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์