ดาวโจนส์เปิดตลาดศุกร์ 13 เขียวสดใส คาดหวังเฟด-มาตรการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ



  • นักวิเคราะห์เตือนตลาดยังผันผวนแรง ตามทิศทางข่าวที่กระทบ
  • นักลงทุนมีความหวังรัฐบาลอนุมัติเปลี่ยนวิธีทดสอบไวรัสโควิด -19 ให้รู้ผลเร็วขึ้น
  • คาดเฟดลดดอกเบี้ยประชุม 17-18 มี.ค. 1%ประคองเศรษฐกิจฟื้น

ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดเขียวสดใส โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 21,840.56 จุด เพิ่มขึ้น 639.94 จุด หรือ +3.02% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,459.10 จุด บวก 257.29 จุด หรือ+3.57% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,575.98 จุด บวก95.34 จุด หรือ 3.8%

ตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงช้อนซื้อเพื่อทำกำไรอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนีพุ่งขึ้นแรง หลังการดิ่งลงอย่างไร้ทิศทางในช่วงวันก่อนหน้า ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ไม่ใช่เรื่องที่เซอร์ไพรส์ตลาด เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ที่ทิศทางปรับขึ้นเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนตามข่าวที่ออกมาระหว่างวัน โดยเฉพาะปัจจัยที่กระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นของไวรัสโควิด -19

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดหุ้นฟื้นขึ้นได้วันนี้ เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1.00% ในการประชุมสัปดาห์หน้าวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าเฟดเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้ประกาศอัดฉีดเม็ดเงิน 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าสู่ระบบธนาคารเมื่อวานนี้ พร้อมกับเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ในการซื้อพันธบัตรของเฟด

FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 65.7% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในวันที่ 18 มี.ค. จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% และมีแนวโน้ม 34.3% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.25-0.50%

ขณะเดียวกัน ตลาดยังรอความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส ขณะที่การอนุมัติให้ใช้วิธีการตรวจสอบหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบใหม่ของบริษัทโรช ซึ่งเป็นบริษัทยาจากสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้นักลงทุนคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ได้ดีมากขึ้น หลังการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการตรวจแบบใหม่นี้จะทราบผลในเวลาเพียง 3.5 ชั่วโมง