

- นักลงทุนกังวลราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด ดันอัตราเงินเฟ้อที่สูงช็อกเศรษฐกิจ
- มีแรงทขายหุ้นลดความเสี่ยง การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนไม่คืบหน้า
- ดอกเบี้ยพุ่ง ทำจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองล่าสุดลดลง 8.1%
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,554.21 จุด ลดลง
253.25 จุด หรือ -0.73% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,049.87 จุด ลดลง 58.95 จุด หรือ -0.42% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,489.30 จุด ลดลง 22.31 จุด หรือ -0.49%
ราคาน้ำมันยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความวิตกเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ปรับขึ้นแรงกว่าที่คาดไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท Caspian Pipeline Consortium (CPC) สัญชาติคาซัคสถาน ไม่สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำของรัสเซีย เนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ โดยที่ผ่านมา CPC ส่งออกน้ำมันราว 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอีก
นักลงทุนเทขายหุ้นลดความเสี่ยง โดยยังติดตามปัจจัยความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซีย รวมถึงการเจรจายุติสงครามในยูเครน ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่ประสบความคืบหน้าใดๆ แม้ก่อนหน้านี้มีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามในข้อตกลงหยุดยิง
ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,930 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 8.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 647,200 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.50% จากระดับ 4.27% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 14% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว