

.ตัวเลขจ้างงานออกมาดีกว่าคาด ทำให้นักลงทุนกังวลเทขายหุ้นออกมาอีกครั้ง
.ตลาดหวั่นตลาดแรงงานแข็งแกร่ง กดดันธนาคารกลางสหรัฐฯเร่งขึ้นดอกเบี้ย
.เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.2% ในไตรมาส3คลายกังวลเศรษฐกิจถดถอย
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนีนอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ
32,983.58 จุด ลดลง -392.90 จุดหรือ -1.18% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,480.25 จุด ลบ 229.12 จุดขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,818.22 จุด ลดลง 60.22 จุด หรือ -1.55%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ยังรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 1.672 ล้านราย
ตัวเลขจ้างงานที่ดีกว่าที่คาดนี้ ทำให้เกิดแรงเทขายออกมาอีกครั้ง โดยนักลงทุนกังวลว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.2% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และ 2.9% ตามลำดับ
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการลดลงของตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐ
การเปิดเผยตัวเลข GDP ดังกล่าวช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE จะบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนต.ค.