

- นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการ ที่น่าผิดหวังของบริษัทโฮมดีโปท์ และยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด
- ตลาดจับตาการเจรจาระหว่างผู้นำฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อแก้ปัญหาผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ
- นักลงทุนรอดูทิศทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
เมื่อเวลาประมาณ 22.08 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,127.19 จุดลดลง
221.41 จุด หรือ -0.66% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,386.47 จุด เพิ่มขึ้น 21.26 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,123.79 จุด ลดลง 12.49 จุด หรือ -0.30%
นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะจัดการประชุมร่วมกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐรวมทั้งแกนนำในสภาคองเกรส เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ โดยการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันนี้เวลา 15.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย โดยเป็นการเจรจาครั้งที่ 2 เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ หลังจากที่การเจรจาครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีไบเดนและนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้วงเงิน 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ และนายไบเดน ได้ยืนยันว่าเขาจะเดินทางไปยังญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G7 ในสัปดาห์นี้ จากเดิมที่เขากล่าวว่าอาจต้องยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากติดภารกิจในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ
อย่างไรก็ดี นายแมคคาร์ธีกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงมีจุดยืนที่แตกต่างกัน ขณะที่ระบุว่า อย่างน้อยที่สุด ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสควรบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ระยะสั้นภายในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อให้มีการออกกฎหมายป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ได้ทันก่อนวันที่ 1 มิ.ย.และหากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
นายแมคคาร์ธี ระบุว่าการเพิ่มเพดานหนี้จะต้องแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลยอมปรับลดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ปธน.ไบเดนไม่สามารถยอมรับได้ โดยระบุว่าการเพิ่มเพดานหนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้
ขณะที่ผลประกอบการบริษัทที่ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้บรรยากาศซื้อขายไม่สดใส ราคาหุ้นของบริษัทโฮม ดีโปท์อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วงลงกว่า 3% หลังเปิดเผยรายได้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือน มี.ค.