ดาวโจนส์ร่วงกว่า 140 จุด รอลุ้นเฟดตัดสินใจดอกเบี้ย



  • นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจดอกเบี้ยครั้งสำคัญคืนนี้
  • ตลาดส่วนใหญ่คาดเฟดคงดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อชะลอต่อเนื่อง
  • มีแรงเทขายหุ้นทำกำไร ลดความเสี่ยง หวั่นผลออกมาพลิกความคาดหมาย

เมื่อเวลาประมาณ 21.55น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,068.44 จุด ลดลง 143.68 จุด หรือ-0.42% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,614.08 จุด เพิ่มขึ้น 40.76 จุด หรือ+0.30% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,383.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.46 จุดหรือ +0.33%

นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในวันนี้ โดยเฟดจะประกาศผลการประชุมในคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย
ขณะที่นักลงทุนบางส่วนขายลดความเสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.00% รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันนี้ และให้น้ำหนักเพียง 4.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%

อย่างไรก็ดี นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 33.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนัก 3.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (dot plot) ในการประชุมวันนี้ รวมทั้งตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ การว่างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะจัดการแถลงข่าวพร้อมตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน โดยคาดว่าเขาจะเน้นย้ำว่า การคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันนี้ ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดจะยังคงจับตาข้อมูลทางเศรษฐกิจสำหรับการตัดสินใจด้านนโยบายการเงิน

ตัวเลขคาดการณ์ dot plot ครั้งล่าสุดในการประชุมเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีนี้ โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งหลังการประชุมเดือนมี.ค. นอกจากนี้ เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.8% ในปี 2567 และ 1.2% ในปี 2568

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้

ทั้งนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% จากระดับ 2.3% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไปปรับตัวลง 0.3% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลง 0.1% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 3.2% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนเม.ย.