- นักวิเคราะห์แสดงความกังวลเหตุประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ยอมผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ตลาดติดตามการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นของโควิด-19 หวั่นกระทบเศรษฐกิจฟื้นช้า
- แต่ยังมีแรงหนุนจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงมากกว่าคาด
เมื่อเวลา 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,176.35 จุด เพิ่มขึ้น 160.84 จุด หรือ +0.54% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,764.84 จุด ลดลง 43.08 จุด หรือ -0.34% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,699.76 จุด เพิ่มขึ้น 12.50 จุดหรือ +0.34%
ตลาดหุ้นสหรัฐค่อนข้างผันผวน โดยแกว่งตัวแคบๆ เพ่ื่อติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยนักลงทุนติดตามโอกาสในการดำเนินการเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากนักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่ลงนามในร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อการดีดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่มักเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี หรือที่เรียกว่า “ซานต้า แรลลี่” ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
ซึ่งจากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471 หรือในช่วงเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา
โดยเหตุผลที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ยอมลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลอตใหม่นี้ โดยอ้างว่าต้องการให้มีการเพิ่มจำนวนเงินในเช็คเงินสดที่จะแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันจาก 600 ดอลลาร์ตามาตรการ เป็น 2,000 ดอลลาร์ รวมทั้ง จะตัดงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกจากมาตรการ
“ทรัมป์ได้ทำลายความหวังเกี่ยวกับการใช้มาตรการทางการคลังของสหรัฐ โดยปฏิเสธที่จะลงนามในมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ หลังผ่านการเจรจาอย่างยาวนานระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ดังนั้น ความหวังของการมี ‘ซานต้า แรลลี่’ ก็ได้ถูกทรัมป์ปล้นไป” นักวิเคราะห์จากมิซูโฮระบุในรายงาน
อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลอตนี้ยังมีความหวังที่จะนำออกใช้ โดยขั้นตอนต่อไป สภาคองเกรสอาจนำร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข แต่ถ้าสภาคองเกรสไม่ดำเนินการดังกล่าว จะมี 3 ทางเลือก คือประธานาธิบดีทรัมป์ ยอมลงนามในร่างกฎหมายนี้เพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย, ใช้สิทธิวีโต้ หรือไม่ดำเนินการใดๆ ซึ่งจะทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยอัตโนมัติ
นักวิเคราะห์ยังกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้หลายประเทศต้องกลับมาทำการล็อกดาวน์รอบใหม่ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมากกว่า 78 ล้านราย โดยผู้ติดเชื้อในสหรัฐมีมากกว่า 18 ล้านราย นอกจากนั้น ยังมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐในขณะนี้ได้เข้าสู่ภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไปแล้ว หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ย.และต้นเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ตลาดได้แรงหนุนตัวเลขคนว่างงานที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์นี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 803,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 885,000 ราย จากระดับ 892,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 5.3 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
