ดาวโจนส์ยังร่วงไม่หยุด ลดลงกว่า 240 จุด กังวลดอกเบี้ยเฟดทุบเศรษฐกิจพัง



.นักลงทุนขายหุ้นต่อเนื่องกังวลธนาคารกลางสหรัฐ-ยุโรปเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
.ตลาดอยู่ในบรรยากาศที่ผันผวน จับตาเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจ หวั่นตัวเลขชี้ภาวะถดถอย
.ราคาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง คาดโอเปกพลัส อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,040.29 จุด ลดลง
ต่อเนื่องอีก 243.11 จุด หรือ -0.75% หลังจากลดลงกว่า 1,000 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,034.21จุด ลดลง 107.50 จุด หรือ -0.89% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,028.35
จุด ลดลง 29.31 จุด หรือ -0.72%

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกเศรษฐกิจถดถอย ดัชนีชี้วัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปพุ่งขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่างยืนยันว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนี CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 7.98% สู่ระดับ 27.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เช่นเดียวกับ ดัชนี STOXX 50 volatility index ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป ดีดตัวขึ้น 2.7 จุด สู่ระดับ 29.606 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.

ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวย้ำว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ

“เราจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ โดยภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพของราคาจะทำให้เกิดผลกระทบมากกว่า”

นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ทางด้านนางอิสซาเบล ชนาเบล กรรมการ ECB ระบุเช่นกันว่า ECB จะใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย

นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. หลังนายพาวเวลให้คำมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

ด้านสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 95 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อพยุงราคาในตลาด