

- หุ้นโบอิ้ง ปิดตลาดทะยานขึ้น 14.4% หนุนตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น
- นักลงทุนยังหวัง ทางการไม่ออกมาตรการล็อกดาวน์รอบ2เป็นวงกว้าง
- ตัวเลขเศรษฐกิจหลังคลายล็อกดาวน์ดีขึ้น ย้ำแนวโน้มฟื้นตัว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 29 มิ.ย.ที่ 25,595.80 จุด เพิ่มขึ้น 580.25 จุด หรือ +2.32% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,053.24 จุด เพิ่มขึ้น 44.19 จุด หรือ +1.47% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,874.15 จุด เพิ่มขึ้น 116.93 จุด หรือ +1.20%
หุ้นโบอิ้ง ปิดตลาดทะยานขึ้น 14.4% เป็นตัวหนุนภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐโดยรวมให้ปรับตัวขึ้น โเย สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ได้เริ่มดำเนินการทดสอบการบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max เมื่อวานนี้ ก่อนที่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะกลับมาให้บริการในปลายปีนี้ โดยนักลงทุนมองว่า หลัง ถูกสั่งห้ามบินเป็นเวลากว่า 15 เดือน หลังเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 346 ราย ครั้งนี้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะได้กลับมายินอีกครั้ง
หุ้นโบอิ้งช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มสายการบิน และกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.34% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 4.9% หุ้น 3M เพิ่มขึ้น 2%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นทวิตเตอร์ ปรับตัวขึ้น 1.5% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.54% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.07% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.87%
ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 2.11% หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่าบริษัทชั้นนำหลายแห่งคว่ำบาตรการโฆษณาบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าเฟซบุ๊กไม่ได้ดำเนินการมากพอที่จะหยุดยั้งการแสดงความเห็นที่สร้างความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก
ตลาดหุ้นยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า รัฐต่างๆในสหรัฐจะไม่ออกมาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง เนื่องจากจะส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า แม้ว่ายอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดย
โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หลังจากคลายล็อกดาวน์ของสหรัฐยังเป็นอีกส่วนที่ช่วยหนุนตลาด โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 44.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ NAR เริ่มทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนม.ค.2544 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 15%
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสพุ่งขึ้นสู่ระดับ 13.6 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -28.0 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. หลังจากทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.
หุ้นโคตี้ ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 13.4% หลังจากบริษัทประกาศทำข้อตกลงกับ คิม คาร์เดเชียน เวสต์ นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง เพื่อพัฒนาธุรกิจความงามทั่วโลก
หุ้นเชซาพีค เอเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ ถูกระงับการซื้อขาย หลังจากบริษัทได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐ จากผลกระทบจากอุปสงค์น้ำมันและก๊าซที่ทรุดตัวลง