

.แรงซื้อท้ายตลาดหนุนดัชนีปิดบวกได้ นักลงทุนหวังปัจจัยบวกใหม่ทดแทนปัจจัยลบ
.ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มซึมซับผลกระทบดอกเบี้ยขึ้นได้ในระดับหนึ่งแล้ว
.นักลงทุนจับาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.สหรัฐวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 1ก.ย.กลับมายืนในแดนบวกได้วันแรกหลังร่วงลงกว่า 1,700 จุดในช่วงก่อนหน้า โดยดัชนีปิดที่ 31,656.42 จุด เพิ่มขึ้น 145.99 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,966.85 จุด เพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ +0.30% อย่างไรก็ตาม ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสยังลดลง ปิดที่ 11,785.13 จุด ลดลง 31.08 จุด หรือ -0.26%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้เกิดกังวลว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารสหรัฐฯ(เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มมองว่าตลาดร่วงต่ำลงกว่าที่ควรเป็นแล้วและเข้ามาช้อนซื้อหุ้นในช่วงท้าย ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 245,000 ราย
ควิสซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัทพีแอลพี ไฟแนนเชียลกล่าวว่า นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยหากตัวเลขจ้างงานออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 ตำแหน่ง หลังจากที่พุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์จากเวลส์ ฟาร์โกคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 375,000 ตำแหน่ง และนักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 350,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม Defensive หรือหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี เช่นหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มสาธารณูปโภค โดยหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ บวก 0.91% หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ พุ่งขึ้น 2.49% หุ้นพีจีแอนด์อี พุ่งขึ้น 1.54% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 1.2%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 3.95% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.68% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.59% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.83%
ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปร่วงลง กดดันดัชนีแนสแด็ก ให้ปิดในแดนลบ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมสั่งห้ามการส่งออกชิปสำหรับการผลิตปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้กับจีน เพื่อลดความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะถูกกองทัพจีนนำไปใช้ ทั้งนี้ หุ้นอินวิเดีย ร่วงลง 7.67% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ร่วงลง 2.99% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.41% หุ้นอินเทล ลดลง 0.5% หุ้นควอลคอมม์ ร่วงลง 1.78%