

- ตัวเลขคาดการณ์ GDP ไตรมาส 4/2564 สหรัฐฯ ขยายตัว 6.9% ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย
- นักลงทุนยังไม่แน่ใจการฟื้นตัวเศรษฐกิจต่อเนื่อง กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยทำการขยายตัวชะงัก
- ตลาดจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่าง รัสเซียและยูเครน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 30 มี.ค.ที่ 35,228.81 จุด ลดลง 65.38 จุด หรือ -0.19%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,602.45 จุด ลดลง 29.15 จุด หรือ -0.63% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,442.27 จุด ลดลง 177.36 จุด หรือ -1.21%
ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวแคบๆ ในแดนลบ ส่งสัญญาณพักฐาน หลังจากไม่มีปัจจัยบวกเพิ่มเติม ขณะที่มีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วน หลังจากดัชนีดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า นอกจากนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมายังไม่แสดงทิศทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ชัดเจน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 ขยายตัว6.9% ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.0% และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.1% ขณะที่ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 455,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 450,000 ตำแหน่งเพียงเล็กน้อย โดยนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในขาขึ้น จะกระทบขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐต่างก็คาดการณ์ว่าธนาารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยโกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.และมิ.ย. ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค. และจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมทุกครั้งหลังจากนั้นถึงสิ้นปีนี้
นักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่าจะสามารถบรรลุผลได้จริงหรือไม่ หลังมีรายงานว่ากองกำลังทหารรัสเซียได้ระดมยิงปืนใหญ่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟเมื่อวานนี้ แม้ว่ารัสเซียเพิ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารรอบกรุงเคียฟซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครนก็ตาม
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐไม่มั่นใจในคำมั่นสัญญาของรัสเซียที่ว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารในกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ โดยนายเคอร์บีมองว่า การที่รัสเซียถอนกำลังทหารบางส่วนออกจากกรุงเคียฟนั้นเป็นการ “กลับมาตั้งหลัก” ไม่ใช่การถอนทหารอย่างแท้จริง พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้กำลังโจมตีครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ของยูเครน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.36% โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์ม ลดลง 0.87% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.4% ห้นแอปเปิลปรับตัวลง 0.667% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.49% ขณะที่หุ้นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นมาร์เวลล์เทคโนโลยี ดิ่งลง 4.14% หุ้นอินวิเดีย ร่วงลง 3.37% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 3.52% หุ้นอินเทล ปรับตัวลง1.57%
หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกปรับตัวลง หลังมีการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงหุ้นไฟฟ์ บีโลว์ (Five Below) ร่วงลง 6.53% หุ้นชิววี่ (Chewy) ดิ่งลง 16.10% หุ้นเบสต์บาย ร่วงลง 4.28% หุ้นเมซีส์ ร่วงลง 3.87% หุ้นทาร์เก็ตลดลง 0.44%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ บวก0.39% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.77% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 0.68%