

- ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19ในสหรัฐพุ่งสูงวันละกว่า 60,000ราย
- นักลงทุนกังวลการสั่วปิดเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังหลายรัฐเข้มงวดมาตรการคุมโรคมากขึ้น
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่ง ดันดัชนีแนสแด็กทำนิวไฮ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 9ก.ค.ที่ 25,706.09 จุด ลดลง 361.19 จุด หรือ -1.39% ขณะที่ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,152.05 จุด ลดลง 17.89 จุด หรือ -0.56% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,547.75 จุด เพิ่มขึ้น 55.25 จุด หรือ +0.53%
ตลาดถูกกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ทางการสหรัฐอาจประกาศล็อกดาวน์ภาคธุรกิจรอบใหม่หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสัปดาห์หลังช่วงหยุดยาวในวันชาติสหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 60,000คนต่อวัน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% หลุดระดับ 40 ดอลลาร์ในวันนี้ เป็นอีกส่วนที่กดดันตลาดจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลต่อความต้องการน้ำมัน
อย่างไรก็ดี ดัชนีแนสแด็กปิดทำนิวไฮ ใหม่ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากมุมมองที่ว่าบริษัทเทคโนโลยีได้รับประโยชน์จากการที่ชาวอเมริกันต่างก็อยู่กับบ้าน หลังรัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19
โดยหุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 3.29% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.99% หุ้นแอปเปิล บวก 0.36% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.7% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 0.38%
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.314 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.39 ล้านราย ขณะที่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งร่วงลง 1.2% ในเดือนพ.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของการนำเข้าแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ร่วงลง 7.76% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่ วอลกรีนส์ยังประกาศว่าจะปลดพนักงานจำนวน 4 พันราย
หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2.12% หลังจากมีรายงานว่าธนาคารเตรียมปลดพนักงานหลายพันคน
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะทยอยเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในสัปดาห์หน้า