ดาวโจนส์ปิดลดลง 85 จุด กังวลผลประชุมเฟด-ผลประกอบการ กลุ่มเทคโนโลยี



.นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง รอสถานการณ์เศรษฐกิจ
.กังวลผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่ำกว่าคาด
.ตลาดยังจับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 27 ก.ค.ที่ 35,058.52 จุด ลดลง 85.79 จุด หรือ -0.24%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,401.46 จุด ลดลง 20.84 จุด หรือ -0.47% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,660.58 จุด ลดลง 180.14 จุด หรือ -1.21%

นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่2ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีรวมทั้งบริษัทอื่นในตลาด และได้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น รวมทั้งเข้าซื้อพันธบัตร ซึ่งส่งผลให้ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นด้วย

หุ้นเทสลา ร่วง 2% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด แต่ระบุว่า ปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลกยังคงรุนแรงซึ่งทำให้บริษัทต้องปิดโรงงานผลิตรถยนต์ชั่วคราว

หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.1% หลังเปิดเผยว่า โรงงานของบริษัทจะเริ่มผลิตชิปของควอลคอมม์ และวางแผนที่จะขยายธุรกิจโรงหล่อใหม่เพื่อผลิตชิป

หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ อาทิ หุ้นไป่ตู้ ร่วงลงต่อ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่จีนคุมเข้มด้านกฎระเบียบกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน

บรรดานักลงทุนจะจับตาผลการประชุมธนาคารสหรัฐฯ (เฟด)ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งตรงกับเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย

หุ้นแมคโดนัลด์ ปรับตัวขึ้น 1% ก่อนเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธนี้

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1% ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส-ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วสหรัฐพุ่งขึ้น 16.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 14.8% ในเดือนเม.ย. และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 15% ในเดือนเม.ย. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 16.3%

ด้าน Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับ 129.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน จากระดับ 128.9 ในเดือนมิ.ย.