ดาวโจนส์ปิดร่วง 448 จุด กังวลเงินเฟ้อพุ่ง-น้ำมันแพงเศรษฐกิจ



  • นักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันแพง ฉุดเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยพุ่ง
  • ตลาดจับตาการประชุมนาโต วางแผนกดดันรัสเซียให้ยุติการโจมตียูเครน
  • มีแรงเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง-ทำกำไรระยะสั้น ยกเว้นหุ้นพลังงานเพิ่มตามราคาน้ำมัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 23 มี.ค.ที่ระดับ 34,358.50 จุด ลดลง 448.96 จุด หรือ -1.29%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,456.24 จุด ลดลง 55.37 จุด หรือ -1.23% ดัชนีอนสแด็ก คอมโพผซิส ปิดที่13,922.60 จุด ลดลง 186.21 จุด หรือ -1.32%

ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยนักลงทุนมองว่าจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงต่อเนื่องและบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจ อีกทั้งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ หลังมีรายงานว่าบริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม(Caspian Pipeline Consortium -CPC) ของคาซัคสถาน ระงับการส่งออกน้ำมันเนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ

มีแรงเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรระยะสั้น และลดคงามเสี่ยงจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ทั้งจากราคาน้ำมัน เงินเฟ้อและสงคราม

นักลงทุนติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อหาทิศทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 2% สู่ระดับ 772,000 ยูนิตในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 810,000 ยูนิต โดยยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

ตลาดยังจับตาความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย รวมถึงการประชุมผู้นำนาโตที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมในวันนี้ (24 มี.ค.) เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการวางแผนกดดันให้รัสเซียยุติการโจมตียูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้เดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์เพื่อพบปะหารือกับผู้นำของนาโตด้วย

 หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.84% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.16% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 1.88% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.99% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.49%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.77% โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ร่วงลง 4.08% หุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 1.68% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) ลดลง 0.29% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 0.39%

หุ้นอะโดบี (Adoby) ดิ่งลง 9.34% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 2/2565 และคาดการณ์ว่าผลประกอบการตลอดปี 2565 จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวลง 1.14% หลังบริษัทประกาศว่าจะระงับการลงโฆษณาทั้งหมดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 2.69% โดยราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสาร 132 คนเสียชีวิตทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.74% โดยหุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ทะยานขึ้น 2.87% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น2.63% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.54% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.58% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.1%

หุ้น GameStop ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ พุ่งขึ้น 14.5% หลังมีรายงานว่านายไรอัน โคเฮนประธานของ GameStop ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทจำนวน 1 แสนหุ้น