ดาวโจนส์ปิดบวก 526 จุด ตลาดเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้น



  • นักลงทุนซื้อหุ้น หลังรัฐบาล-เฟดจ่อออกมาตรการกระตุ้นเศรฐกิจรอบใหม่
  • ยอดค้าปลีกของสหรัฐที่พุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการคลายล็อกดาวน์
  • ราคาน้ำมันปรับขึ้น หนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 16มิ.ย.ที่ 26,289.98 จุด เพิ่มขึ้น 526.82 จุด หรือ +2.04% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,124.74 จุด เพิ่มขึ้น 58.15 จุด หรือ +1.90% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,895.87 จุด เพิ่มขึ้น 169.84 จุด หรือ +1.75%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังยอดค้าปลีกของสหรัฐที่พุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 8.0% โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ขณะเดียวกัน สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 21 จุด สู่ระดับ 58 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเน้นการสร้างถนน และโครงข่าย 5จี ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19

รวมทั้งก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายคริส วิตตี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการแพทย์ของอังกฤษ กล่าวว่า ผลการใช้ยา dexamethasone ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 1 ใน 3

หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และธุรกิจสุขภาพปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ พุ่งขึ้น 3.56% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่งขึ้น 2.32% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่งขึ้น 4% หุ้นไมแลน เอ็นวี พุ่งขึ้น 1.45% หุ้น Abbvie พุ่งขึ้น 3.17 หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส บวก 0.2%

หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยหุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 6.28% หุ้นนอร์ดสตรอม ทะยานขึ้น 12.91% หุ้นโฮม ดีโปท์ พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 8.96% หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ทะยานขึ้น 15.2%

ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่กลับมาพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.23% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 3.07% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.84% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 6.43% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ พุ่งขึ้น 3%

อย่างไรก็ตาม หลังปรับขึ้นต่อเนื่อง ดัขนีดาวโจนส์ ลดช่วงบวกลง หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อม และผู้ที่มีรายได้ระดับต่ำ รวมทั้งชาวอเมริกันซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ค. หลังจากหดตัว 12.5% ในเดือนเม.ย.