- นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลับในหลายกลุ่ม หลังซึมซับแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟด
- นายพาวเวลยืนยันแม้ขึ้นดอกเบี้ต่อเนื่อง แต่เฟดจะประคองให้เศรษฐกิจสหรัฐซอฟท์แลนด์ดิ้ง
- ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ดูทิศทางการฟื้นตัวในระยะต่อไป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 22 มี.ค.ที่ 34,807.46 จุด เพิ่มขึ้น 254.47 จุด หรือ + 0.74%, ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,511.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.43 จุด หรือ +1.13% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโฑวิส ปิดที่ 14,108.82 จุด เพิ่มขึ้น 270.36 จุด หรือ +1.95%
นักลงทุนเริ่มปรับตัวรับสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แล้ว และมองว่าสิ่งที่ควรทำในขณะนี้คือเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดออกมาระบุว่า แม้เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่จะทำโดยมีเป้าหมายทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลออย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ทำลายการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากการส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งใดครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งของเฟด โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 2.44% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.77% ห้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.08% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.64% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.22% หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 2.63%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.18% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.74% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.13% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ทะยานขึ้น 4.4%
หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 2.23% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. 2565 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของไนกี้อยู่ที่ 87 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 71 เซนต์ ส่วนรายได้อยู่ 1.087 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.059 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 7.91% ขานรับรายงานที่ว่า บริษัทเทสลาได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าล็อตแรกที่ผลิตในโรงงานเมืองกรุนไฮเดอ ประเทศเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.3% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.44% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.33% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ปรับตัวลง 0.96%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในช่วงสัปดาห์นี้เพื่อรอดูทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
