.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังคลายกังวลความขัดแย้งเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้
.รีพับลิกัน ระบุจะหนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ
.การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐ เพิ่ม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 6 ต.ค.ที่ 34,416.99 จุด เพิ่มขึ้น 102.32 จุด หรือ + 0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,363.55 จุด เพิ่มขึ้น 17.83 จุด หรือ +0.41% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,501.91 จุด เพิ่มขึ้น 68.08 จุด หรือ + 0.47%
ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ โดยช่วงแรกดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 400 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนีดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังจากนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าพรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปจนถึงเดือนธ.ค.
คำกล่าวของนายแมคคอนเนลล์ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 18 ต.ค. ก็จะทำให้สหรัฐเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และอาจฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
ขณะที่ภาวะตลาดแรงงานอยู่ในทิศทางที่ดี โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ ซึ่งระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 568,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ตำแหน่ง จากระดับ 340,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 1.53% โดยหุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.59% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 1.64 % หุ้นพอร์ทแลนด์ เจเนอรัล อิเล็กทริก ดีดขึ้น 1.47%
ขณะที่มีแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หบังราคาลงแรง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในกลุ่ม FAANG ดีดขึ้นยกแผง โดยหุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.20% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 1.27% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.13% หุ้นแอปเปิล บวก 0.63% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.68% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.51%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 1.05% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.83% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.88% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 1.79%
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหลังจากโกลด์แมน แซคส์ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นสายการบินหลายแห่ง เนื่องจากคาดว่าราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 4.33% หุ้นเดลตา แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.61% หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ร่วงลง 2.67% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 1.3%
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจลดQEของธนาคารกลางสหรัฐ
