ดาวโจนส์ปรับลดลงเล็กน้อยกว่า 40 จุด มีแรงขายทำกำไรหลังจีดีพีดีกว่าคาด



.นักลงทุนลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังจีดีพีไตรมาส 4 ออกมาดีกว่าคาด

.มีแรงซื้อหุ้นสะสม ขณะที่มีแรงขายทำกำไร รอทิศทางดอกเบี้ยจากการประชุมเฟดช่วงสิ้นเดือน

.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สวนนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,694.64 จุด ลดลง
49.20 จุด หรือ -0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,399.08 จุด เพิ่มขึ้น 85.73 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,023.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.76 จุด หรือ +0.19%

ตลาดหุ้้้นสหรัฐยังคงปรับตัวผันผวน โดยนักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นต่อเนื่อง หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ โดยการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) วันนี้ รวมทั้ง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม เริ่มมีแรงเทขายออกมาเพื่อทำกำไร และลดความเสี่ยง เนื่องจากใกล้วันประชุมเพื่อพิจารณาดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงสิ้นเดือนนี้

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 4/2565 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8% หลังจากขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 3 โดยปัจจัยหลักมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงสิ้นปี 2565 ที่ปรับตัวดีขึ้น

การเปิดเผยตัวเลข GDP ดังกล่าวช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1/2565 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
โดยทั้งปี เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ในปี 2565

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 5.6% ในเดือนธ.ค. หลังจากร่วงลง 1.7% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% ในเดือนธ.ค.ขณะที่ทั้งปี 2565 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.5%

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนบางส่วน เนื่องจากใกล้วันประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 186,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 205,000 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 1.68 ล้านราย

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ และสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค ขณะที่ครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)