ดาวโจนส์ดีดขึ้นปิดในแดนบวก เพิ่ม 157จุด ขานรับเฟดกระตุ้นเศรษฐกิจ



  • เฟดประกาศขยายขอบข่ายซื้อตราสารหนี้เอกชนซื้อวงเงิน 7.50 แสนล้านดอลลาร์
  • สนับสนุนบริษัทขนาดใหญ่มีสภาพคล่องคงการจ้างงาน
  • ตลาดกังวลโควิด-19 ระบาดรอบสอง แรงกว่ารอบแรก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 15 มิ.ย.ที่ 25,763.16 จุด เพิ่มขึ้น 157.62 จุด หรือ +0.62% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,066.59 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.83% ขณะที่ดัชนีอนสแด็ก คอมโพซิว ปิดที่ 9,726.02 จุด เพิ่มขึ้น 137.21 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พลิกกลับมาปิดตลาดในบวก หลังจากที่ทรุดตัวลงอย่างหนักตั้งแต่เปิดตลาด จากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของโควิด-19 ในสหรัฐ

นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขยายขอบข่ายโครงการ Secondary Market Corporate Credit Facility ซึ่งมีวงเงิน 7.50 แสนล้านดอลลาร์ โดยให้ครอบคลุมถึงการซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชนเป็นวงกว้าง พร้อมกับยกเลิกกฎระเบียบอันเข้มงวดที่เคยนำมาใช้สำหรับบรรดาผู้กู้ยืม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดและจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการจ้างงานจำนวนมาก

ทั้งนี้ นักวิชาการได้ออกมายืนยันว่า สหรัฐได้เข้าสู่ช่วงการระบาดในรอบที่ 2แล้ว โดยหลายรัฐในสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ส่งผลให้ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,162,228 ราย และมีผู้เสียชีวิต 117,858 ราย และมีคำเตือนออกมาให้ประชาชนชาวอเมริกาปรับพฤติกรรมก่อนที่การระบาดจะควบคุมไม่ได้

หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นนำตลาด โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.25% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 1.53% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 1.38% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.46% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.42%

ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโมเดอร์นาดีดขึ้น 7.37% หลังจากมีรายงานว่า อิสราเอลกำลังเจรจาซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จากบริษัทโมเดอร์นา ขณะที่หุ้น Gilead Sciences เพิ่มขึ้น 1.05% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส บวก 0.52%

หุ้นซูม วีดิโอ คอมมูนิเคชั่นส์ ทะยานขึ้น 8.9% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในจีนและสหรัฐอาจทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน และหันมาใช้แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมทางไกลมากขึ้น

หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งปรับตัวลดลง โดยเฉพาะกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.66% หุ้นเจ็ทบลู ร่วงลง 1.72% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 0.24% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 2.7% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ลดลง 0.57% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ร่วงลง 2.49%

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจหลังเปิดเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ -0.2 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -35.0 อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก