ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 98 จุด หุ้นโบอิ้งดีดตัวหนุนตลาด



.หุ้นโบอิ้งพุ่งแรง เป็นพระเอกพยุงดาวโจนส์ปิดแดนบวก
.นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานปรับตังลดลง
.เฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐ ผิดนัดชำระการเพิ่มเงินประกัน (Margin Call)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 29,มี.ค.ที่ 33,171.37 จุด เพิ่มขึ้น 98.49 จุด หรือ +0.30% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 3,971.09 จุด ลดลง 3.45 จุด หรือ -0.09% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,059.65 จุด ลดลง 79.08 จุด หรือ -0.60%

ตลสดหุ้นสหรัฐผันผวน โดยช่วงแรกในการเปิดตลาด ติดลขหลังการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งได้รับแรงกดดันหลังจากเครดิตสวิสและโนมูระเปิดเผยว่า ทางธนาคารอาจเผชิญการขาดทุนมูลค่ามหาศาล หลังจากบริษัท Archegos Capital ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐ ผิดนัดชำระการเพิ่มเงินประกัน (Margin Call)

ทั้งนี้ หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 3.32% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 2.69% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.55% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.96% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.97%

หุ้นตัวอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท Archegos Capital ปรับตัวลงด้วย ซึ่งรวมถึงหุ้นดิสคัฟเวอร์รี อิงค์ ร่วงลง 1.60% หุ้นเวียคอมซีบีเอส ดิ่งลง 6.68% หุ้นไป่ตู้ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลง 1.87%

รวมทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงเช่นกัน นำโดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.57% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 2.18% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.51% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.59% หลังจบวิกฤตในคลองสุเอซ

อย่างไรก็ตาม หุ้นโบอิ้ง ทีพุ่งขึ้น 2.31% เป็นปัจจัยหนุนดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากโบอิ้งบรรลุข้อตกลงขายเครื่องบินรุ่น 737 MAX จำนวน 100 ลำให้กับสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ซึ่งถือเป็นยอดขายจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวถูกสั่งห้ามบินในสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว

รวมทั้งการปรับขึ้นของหุ้น หุ้นโคคา-โคลา ดีดตัวขึ้น 1.53% หุ้นวอลมาร์ท ปรับตัวขึ้น 1.14% หุ้นเวอริซอน คอมมูนิเคชัน เพิ่มขึ้น 1.12%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาวะการซื้อขายจะผันผวนตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากบริษัทจำนวนมากทำการปรับพอร์ทก่อนปิดงบการเงินประจำไตรมาส 1/2564

โดยนักลงทุนจับตาแผนการลงทุนด้านสาธารณูปโภควงเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยคาดว่าเขาจะเปิดเผยโครงการดังกล่าวในวันพุธนี้

รวมทั้ง ยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 630,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 6.0%