ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดเล็กน้อย 27 จุด รอผลประชุมเฟด



.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน มีทั้งแรงเทขายลดความเสี่ยง สลับแรงช้อนซื้อหุ้นราคาถูก

.นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะเริ่มต้นคืนนี้

.ตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ย ขณะที่จับตาผลประกอบบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,901.07 จุด
ลดลง 27.89จุด หรือ –0.08% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,170.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.80จุด หรือ+0.09% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 12,786.87 จุด ลดลง 2.61จุด หรือ–0.02%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนทั้งในด้านบวกและแดนลบ นักลงทุนส่งแรงเทขายเพื่อทำกำไร และลดความเสี่ยงก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินในคืนนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ย ขณะที่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์

ผลประกอบการบริษัทที่ออกมาแย่กว่าที่คาดเป็นตัวหนุนตลาด โดยราคาหุ้นของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 2% หลังบริษัทประสบภาวะขาดทุนรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากยอดขายที่ลดลงจากการจำหน่ายยาและวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19

นักลงทุนจับตากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) เทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ และในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายในปีนี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

ขณะที่นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. หลังจากให้น้ำหนักเพียง 57.7% เมื่อเดือนที่แล้ว

ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 188,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8% ในเดือนต.ค.