ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนก.ค. 66 ดีขึ้น



สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเผย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนก.ค. 66 ดีขึ้น อานิสงส์เปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติทัวร์ไทยคึกคัก

  • สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้า ที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค
  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคการลงทุนเป็นสำคัญ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2566 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกรกฎาคม 2566 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้า ที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคการลงทุนเป็นสำคัญ”

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 81.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการเนื่องจากคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะขยายกิจการของตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  พบว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 85.2 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคการลงทุนเป็นสำคัญ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 79.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับบางพื้นที่มีการจัดงานประเพณีประจำท้องถิ่น และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการภาคบริการในพื้นที่มีแนวโน้มจะขยายกิจการของตนเองมากขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 77.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่แนวโน้มจะขยายกิจการของตนเองมากขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 76.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าผลไม้แปรรูป และในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับภาคเหนือกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจกทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 74.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และในภาคการจ้างงาน เนื่องจากคาดว่าผู้ประกอบการบางรายในพื้นที่มีแนวโน้มจะขยายกิจการ ทำให้มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เกษตรกรในพื้นที่มีความกังวลต่อสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 73.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมจากอุปสงค์ในประเทศเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เกษตรกรในภาคกลางมีความกังวลต่อสภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ระดับ 69.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางรายในพื้นที่มีความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้างแรงงาน