

- สั่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถกหาราคารับซื้อแต่ละช่วงให้เหมาะสม
- พร้อมกำหนดมาตรการจัดการถ้าไม่ซื้อตามราคาที่ตกลง
- กลุ่มซาเล้งเฮ!ถึงกับหลั่งน้ำตารัฐดูแลแก้ปัญหาให้จริง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาราคาเศษกระดาษตกต่ำจากการนำเข้าว่า ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 ฝ่ายมาหารือร่วมกัน ทั้งรถซาเล้งรับซื้อของเก่า, ร้านรับซื้อของเก่า, ธุรกิจแปรรูปกระดาษก้อน, โรงงานผลิตกระดาษสำเร็จรูป และภาคราชการ ทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมศุลกากร กระทรวงอุตสาหกรรม ฯลฯ ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ทั้ง 5 ฝ่ายหารือร่วมกันในการกำหนดราคากระดาษที่ผู้ค้าในแต่ละช่วงจะรับซื้อให้มีความเหมาะสม และให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ไม่ขาดทุน โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นให้นำมาเสนอในที่ประชุม 5 ฝ่ายอีกครั้ง

สาเหตุที่ราคากระดาษใช้แล้วในประเทศตกต่ำขณะนี้ มาจากมีการนำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก โดยปี 61 นำเข้าเพียง 1.4 ล้านตัน แต่ปี 62 เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านตัน ประกอบกับ ราคาเศษกระดาษในตลาดโลกตกต่ำด้วยจึงฉุดให้ราคาในประเทศลดลงตาม โดยขณะนี้ ซาเล้ง ขายได้เพียงกิโลกรัม (กก.) ละ 30-50 สตางค์ จากปี 61 ที่กก.ละ 5-6 บาท แต่ราคาที่ซาเล้งบอกว่าอยู่ได้อยู่ที่กก.ละ 3 บาท
”เมื่อแต่ละฝ่ายกำหนดราคารับซื้อกระดาษในแต่ละช่วงที่เหมาะสมได้แล้ว ก็ให้ทุกฝ่ายซื้อขายกันตามราคาที่ตกลงไว้ รวมถึงให้คุยกันด้วยว่า ถ้าไม่ซื้อตามราคาที่ตกลงกัน จะมีมาตรการจัดการกันเองอย่างไร”
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กำหนดมาตรการให้ผู้ค้าในแต่ละช่วงปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน รวมถึงหามาตรการดำเนินการ หากผู้ค้าแต่ละช่วงไม่รับซื้อตามราคาที่ตกลงกันไว้ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศศึกษาถึงการใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) หากยังมีการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมากจนทำให้ผู้ประกอบการในประเทศเสียหาย รวมถึงให้กรมศุลกากรเข้มงวดกับการนำเข้าขยะที่ยังอนุญาตให้นำเข้าได้ เพื่อป้องกันการสำแดงเท็จ หรือป้องกันปัญหาสิ่งที่ปนเปื้อนมากับเศษกระดาษที่มีลักษณะที่ผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมแก้ปัญหาการนำเข้าเศษกระดาษ มีกลุ่มซาเล้งประมาณ 300 คนเดินทางมาที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้กำลังใจนายจุรินทร์ และเมื่อมีทางออกในการแก้ปัญหาแล้ว ทำให้กลุ่มซาเล้งพอใจมาก บางคนถึงกับน้ำตาไหล เพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาที่ลดลง อีกทั้ง ยังกล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 100 ปีที่อาชีพซาเล้งและกลุ่มรับซื้อของเก่าได้มีโอกาสมาร่วมพบปะกันในการแก้ปัญหา