- โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
- รอผู้ว่าฯสอบเพิ่มถ้าพบกักตุนโดนอีก 1 ข้อหา
- ลั่นยังไม่อนุญาตให้ผู้ผลิตสินค้าใดขึ้นราคาช่วงนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัด สงขลา นำทีมเข้าตรวจห้องเย็นแห่งหนึ่ง หลังพบมีเนื้อหมูฝากเก็บไว้กว่า 200,000 กิโลกรัม (กก.) ว่า กรณีนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเข้าข่ายกักตุนสินค้าหรือไม่ แต่ได้คุยกับผู้ว่าราชการจัดหวัดสงขลา ในฐานะประธานวอร์รูมติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าระดับจังหวัดเมื่อช่วงเช้า ทราบว่า พบความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณการครอบครอง (สต๊อก) ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกประกาศให้ผู้เลี้ยงตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหมูชำแหละตั้งแต่ 5,000 กก.ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง และสต๊อกต่อกรมการค้าภายใน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 2,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน หรือจะแจ้งให้ถูกต้อง เบื้องต้นมีความผิดนี้แล้ว 1 กระทงที่ต้องดำเนินคดี
“ส่วนห้องเย็นรายนี้ จะเข้าข่ายกักตุนสินค้าหรือไม่ จะต้องรอทางผู้ว่าราชการจังหวัดสอบก่อน และผู้ว่าฯจะแถลงให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด เร่งบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัดออกตรวจสอบ ดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการไม่แจ้งปริมาณ หรือการกักตุน จะมีโทษตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ”
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอื่นๆ ได้สั่งให้กรมการค้าภายใน ประชุมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ค้า เพื่อตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อเนื่อง หลังจากได้หารือกับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำอัดลม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรสแล้ว ทุกรายยืนยันจะให้ความร่วมมือตรึงราคาให้นานที่สุด ขณะที่น้ำมันปาล์มบรรจุขวด ที่ปรับตัวสูงขึ้น ยอมรับเป็นเรื่องยาก เพราะตอนนี้ผลปาล์มสดขึ้นไปถึง กก.11 บาท ซึ่งที่ผ่านมา ได้ขอให้ผู้ผลิตช่วยตรึงราคาไว้ได้ระยะหนึ่ง แต่ถ้าให้ตรึงนานเกินไป ผู้ผลิตจะทนขาดทุนไม่ไหว และหากหยุดผลิต อาจทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนได้ ซึ่งได้สั่งให้กรมการค้าภายใน นัดหารือกับผู้เกี่ยวข้อง หาทางออกเรื่องปาล์มร่วมกัน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม หาจุดสมดุล ทำให้ทุกฝ่าย ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวด และผู้บริโภคอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นธรรม
“ได้สั่งการให้ดูแลการขึ้นราคาสินค้า หรือค้ากำไรเกินควรอย่างเคร่งครัด ถ้าใครทำผิดกฎหมาย ละเมิดข้อตกลง หรือกักตุน ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร ให้ผู้มีหน้าที่ดำเนินคดีและให้ลงโทษขั้นสูงสุด”
ด้านนายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการที่พาณิชย์จังหวัดสงขลาร่วมกับผู้ว่าฯ สงขลา ตรวจสอบห้องเย็นในจ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 พบมีการจัดทำบัญชีและแจ้งปริมาณสินค้าเนื้อหมูไม่ตรงกับสินค้าที่มีการตรวจสอบ จึงให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา แจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอจะนะ เพื่อดำเนินคดีข้อหาไม่แจ้งปริมาณในครอบครองกับห้องเย็นรับฝาก ซึ่งเป็นผู้ครอบครองแทนผู้อื่น
ส่วนนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคามะละกอ และผักอื่นๆ ที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งพบว่า ราคาผักและผลไม้ยังเป็นปกติ โดยปรับขึ้นลงตามฤดูกาล สำหรับมะละกอที่มีข่าวปรับขึ้นราคาจนกระทบต่อร้านส้มตำ จากการสอบถามเกษตรกรที่นำมาจำหน่าย บอกว่า มะละกอปรับราคาขึ้นลงเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ แต่เข้าถึงเดือนเม.ย.-พ.ค. ราคาจะลดลง ล่าสุดราคา ณ วันที่ 21 ม.ค.65 มะละกอลูกยาว (พันธุ์ดำเนิน) ถุง 10 กก. อยู่ที่ 100-130 บาท และมะละกอลูกกลม ถุง 130-150 บาท ซึ่งเป็นราคาปกติ
