

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.กล่าวในรายการพีซทอล์ค ถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะมีการยื่นอภิปราย 11 รัฐมนตรี จะเกิดปรากฏการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการพูดความจริงกับประชาชน ทั้งฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหา และฝ่ายรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจง หากพูดถึงเสียงในสภาอย่างไรก็แพ้วันยังค่ำ
ดังนั้น การอภิปรายในครั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระในการอภิปราย แต่ที่ผ่านมานั้นต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ไม่สามารถล้มรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญนี้ได้ ในสภาคำว่าล้มมวยนั้น คนที่อยู่ในแวดวงนักการเมืองย่อมรู้บางกรณีอธิบายแบบ ค.คนขึงขัง แต่ฝ่ายรัฐบาลเตรียมทุกอย่างมาตอบได้ทุกข้อนั้น ในทางการเมืองคือ ข้อสอบรั่วเล่นละครกัน
ดังนั้น การอภิปรายคราวนี้ ไม่ควรมีลักษณะเหมือนครั้งที่ผ่านมา เมื่อได้ข้อมูลมาต้องซื่อสัตย์กับข้อมูลนั้นๆ โดยไม่มีลักษณะการล้มมวย โดยมองว่า การอภิปรายครั้งนี้เท่ากับเป็นการปลุกประชาชนที่อยู่ท่ามกลางความยากลำบาก หากสามารถอภิปรายชี้ให้เห็นว่าในขณะที่ประชาชนคนไทยมีความยากลำบาก รัฐบาลยังทุจริตคอร์รัปชั่น ยังลุแก่อำนาจ ก็ทำให้เกิดเเรงกระเพื่อมในหมู่ประชาชน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการปลุกประชาชนให้ลุกชึ้นมาจัดการรัฐบาล เพราะเสียงของฝ่ายค้านในสภาอย่างไรก็ไม่พอ แต่ฝ่ายค้านต้องอภิปรายจนกระทั่งประชาชนไม่สามารถรับรัฐบาลได้ แต่หากล้มมวยกันอีกรอบเชื่อว่าจะถูกไล่ลงจากเวทีทั้งคู่
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า หากรัฐบาลยังอยู่แบบนี้ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าประชาชนทุกฝ่ายจะออกมาเปลี่ยนแปลง หากฝากความหวังไว้กับระบบรัฐสภาไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องถึงมือประชาชนอีกครั้ง และเชื่อว่าประชาชนจะเต็มถนนกันอีกครั้งเพื่อส่งเสียงขับไล่รัฐบาล