

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การเปิดประชุมสภาฯ วิสามัญเพื่ออภิปรายวันนี้ (26 ต.ค.2563) รัฐบาลต้องการใช้การประชุมนี้ เพื่อจะฟอกขาวตัวเองเท่านั้น หลังจากที่มีผู้ชุมนุมจำนวนมากที่ประกอบไปทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
“หลังจากได้ยินคำแถลงของนายกรัฐมนตรีแล้ว แสดงอย่างชัดเจนว่าท่านยังขาดความสำนึกที่จะรับรู้ได้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกิดมาจากพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น ซึ่งหากท่านลาออกไป ปัญหาต่างๆ จะลดทอนลงไปมาก และอาจจะหมดไปในที่สุด” นายพิชัย กล่าว
ทั้งนี้การที่ พล.อ.ประยุทธ์ อ้างความสำเร็จของการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฟัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ปรึกษา ที่ยอมรับเองว่า การป้องกันไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยได้ที่หนึ่ง แต่เศรษฐกิจไทยได้ที่โหล่
ซึ่งก็หมายถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย จะขยายตัวติดลบมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประชาชนจะลำบากกันอย่างมาก และจะมีคนตายจากพิษเศรษฐกิจมากกว่าคนตายจากไวรัสโควิดมาก ทุกวันนี้ก็มีข่าวการฆ่าตัวตายอยู่แทบทุกวัน โดยล่าสุดมีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นถึง 22%
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดเหมือนไม่เข้าใจสาเหตุที่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน จำนวนมากออกมาชุมนุมขับไล่เลย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากที่พวกเขาไม่เห็นว่า ผู้นำมีความรู้ความสามารถเพียงพอ ขาดวิสัยทัศน์ ขนาดออกความเห็นยังผิดมาตลอด
โดยเขาเหล่านี้ ไม่เห็นอนาคตของพวกเขาเลยจากฝีมือการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พิสูจน์ว่าล้มเหลวมาตลอด 6 ปี โอกาสในการหางานทำหลังเรียนจบแทบไม่มีเลย แม้ว่าจะขยันเรียนแค่ไหน อนาคตไม่รู้จะหารายได้ได้อย่างไร
ล่าสุด สื่อหลักต่างประเทศอย่าง วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ยังบอกว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะย่ำแย่หนักเหมือนสมัยต้มยำกุ้งในปี 2540 ซึ่ง พล.อ.ปนะยุทธ์ จะไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะรับมือได้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังสั่งให้มีการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวันในวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยผิดต่อหลักการสากล ผู้ชุมนุมชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ และไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง แต่โดนตำรวจปราบจราจลเข้าสลายการชุมนุมอย่างเต็มชุด ทั้งโล่และกระบอง มีทั้งรถฉีดน้ำแรงสูงผสมสารเคมี และมีการใช้แก๊สน้ำตาอีกด้วย
ทั้งนี้ข่าวการสลายการชุมนุมได้กระจายไปทั้วโลกแล้ว ซึ่งแน่นอนก็ทำให้ความเชื่อถือของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีเหลือแล้ว ตอกย้ำข่าวทางด้านลบที่มีมาตลอด 6 ปี ที่มีการคุกคามผู้เห็นต่างมาโดยตลอด
“เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้เลย อยู่ไปก็จะเป็นการถ่วงความเจริญของประเทศ ดังนั้นควรจะต้องรีบลาออกก่อนจะเกิดความรุนแรง ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้อีกต่อไป และต้องหนีไปต่างประเทศ” นายพิชัย กล่าว