งานนี้วุ่นแน่!… เอกชนโวย ปมกำหนดนักท่องเที่ยวเข้าไทยก่อนใน 10 ม.ค.นี้ ชี้ทำภาคเอกชนที่รับเงินมาแล้วตายอย่างเดียว



  • เชื่อเกิดความเสียหาย กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยแน่
  • ชี้จำนวนนักท่องเที่ยวค้างท่อ ที่เดินทางเข้าไทยจะมีประมาณ 90,000 คน
  • โดยได้จ่ายเงินค่าเครื่องบิน จ่ายเงินจองค่าที่พักไว้หมดแล้ว
  • ลั่นเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนักท่องเที่ยว เป็นความผิดของฝ่ายไทยเอง

นายกรด โรจนเสถียร ประธานภาคเอกชนของโครงการหัวหิน รีชาร์จ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่านายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ระบุว่า ผู้เดินทางในระบบ Test & Go ที่ยังค้างท่ออยู่ จะต้องเดินทางเข้ามาประเทศไทยภายในวันที่ 10 ม.ค.65 นี้ เท่านั้น หลังจากนั้น หากใครต้องการเข้าไทย จะต้องเข้าระบบแซนด์บ็อกซ์(Sandbox) ที่ภูเก็ต หรือ ผ่านระบบกักตัว (Quarantine) เท่านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสียหาย และมีผกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยอย่างมาก เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวค้างท่อที่ยังไม่เดินทางเข้ามาน่าจะมีประมาณ 90,000 คน ซึ่งได้จ่ายเงินค่าเครื่องบินรวมทั้งเงินจองค่าที่พักในไทยไว้หมดแล้ว

อีกทั้งมาตามระบบที่ ศบค.กำหนดว่า ใครยื่นขอเข้าประเทศไทยผ่านระบบไทยแลนด์ พาส ภายในวันที่ 21 ธ.ค.2564 จะได้รับพิจารณาทั้งหมด โดยคนจำนวนที่ค้างท่อส่วนใหญ่จะเดินทางมาไทยเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้

“พอมีข่าวออกมาอย่างนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่จองเข้าประเทศไทยเกิดปัญหาทันที ทุกโรงแรมวุ่นกันไปหมด ว่าต้องแก้ปัญหาอย่างไร ต้องยกเลิกการจองและคืนเงินให้กับนักท่องเที่ยวที่จ่ายเงินมาแล้ว หรือต้องเจรจาให้นักท่องเที่ยวที่จะมาหลังวันที่ 10 ม.ค.ต้องเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่มีทางยอมแน่ คงจะยกเลิกทั้งหมด ซึ่งเสียหายมาก เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนักท่องเที่ยว เป็นความผิดของฝ่ายไทยเอง กระทบต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยอย่างมาก แบบนี้เอกชนตายอย่างเดียว ไม่เหลืออะไรแล้ว” นายกรด กล่าว