- ชี้สะพานใหม่ทำเลศักยภาพในอนาคต ดีมานด์โตเฉลี่ย 30% ต่อปี
- พร้อมรองรับส่วนเชื่อมต่อสายสีชมพูและสนามบินดอนเมือง phase 3 ในอนาคต
- ทำเลดีรายล้อมไปด้วย มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และหน่วยงานของรัฐ
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่านพัฒนาโครงการแนวสูงและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ และแสนสิริ ได้ร่วมทุนกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน ล่าสุดได้เดินหน้าโอนโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส (THE BASE) ในชื่อโครงการ “เดอะ เบส สะพานใหม่” จำนวน 820 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท โดยโครงการได้รับการตอบรับจากกลุ่มเรียลดีมานด์เป็นอย่างดี ปัจจุบันโครงการเดอะ เบส สะพานใหม่ มียอดขายกว่า 80% ของจำนวนห้องที่เปิดขาย โดย 60% จากยอดขายเป็นผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริง ซึ่งสะท้อนเรียลดีมานด์ของผู้ซื้อในกลุ่มตลาดคอนโดในเซ็กเม้นต์ C และ D ซึ่งเป็นตลาดที่แสนสิริเล็งเห็นถึงศักยภาพในปัจจุบัน
“ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และส่งมอบให้กับลูกค้าสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 28,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง การคิดและนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า รวดเร็วทันตลาด ตลอดจนการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด”
ทั้งนี้โครงการเดอะ เบส สะพานใหม่ ตั้งอยู่ในทำเลสะพานใหม่ ซึ่งเป็นทำเลแห่งอนาคตที่มีศักยภาพสูง อยู่ติดกับบีทีเอสสถานีสายหยุดเพียง 30 เมตร เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้อยู่อาศัยในเดือน ต.ค.นี้ ทั้งนี้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีการขยายออกมาทางโซนกรุงเทพตอนเหนือ ทำให้หลายๆ พื้นที่ที่รถไฟฟ้าสายนี้ผ่านมีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านสะพานใหม่ ซึ่งเป็นทำเลที่มีจุดเด่นหลากหลาย มีความเป็นชุมชนเก่า ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ อาทิเช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, โรงพยาบาลภูมิพล, โรงพยาบาลเซ็นทรัล เจ็นเนอร์รัล อีกทั้งยังพร้อมรองรับกับโครงการในอนาคต อาทิ รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายที่จะตัดกันที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และสนามบินดอนเมือง phase 3 จึงส่งผลให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลศักยภาพในอนาคต
นายปิติ กล่าวว่า ดีมานด์ในพื้นที่ย่านสะพานใหม่นั้นเติบโตสูงเฉลี่ย 30% ต่อปี โดยในปี 2017 โตสูงถึง 77% นอกจากนี้พื้นที่บริเวณสะพานใหม่ยังมีราคาที่ดินที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์พบว่า อัตราการเติบโตของราคาที่ดินเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (คูคต-ลำลูกา) เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยถึงปีละ 61.3% ขณะที่ราคาขายต่อของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาในย่านสะพานใหม่ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ส่วนใหญ่สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น โดย Capital Gain อยู่ที่ 3% ต่อปี ขณะที่การปล่อยเช่าก็สามารถทำราคาได้ดีเช่นกัน โดยมีราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000 – 20,000 บาท โดย Yield อยู่ที่ 5%
สำหรับไฮต์ไลท์ของโครงการ เดอะ เบส สะพานใหม่ คือความพยายามสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ การออกแบบ Co-working Space บริการ 24 ชั่วโมง บนพื้นที่กว่า 280 ตารางเมตร สะดวกทั้งการนัดประชุม พูดคุยธุรกิจส่วนตัว หรือนำเสนอไอเดียใหม่ๆ Panoramic Gym ฟิตเนสขนาดใหญ่ให้มุม 270 องศา ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณดาดฟ้าประกอบด้วย Sunset Garden สวนสวยตัดเส้นขอบฟ้า สามารถนั่งดูดาวที่ Star Lounge อีกทั้งยังประกอบด้วย Jogging Track สำหรับการออกกำลังกายโดยการวิ่งเบาๆ และแหล่งเรียนรู้ Educational Playground ที่ออกแบบร่วมกับ รพ.สมิติเวช ตลอดจน Sunrise Lagoon สระว่ายน้ำที่ออกแบบในสไตล์ Infinity Lap Pool
ทั้งนี้โครงการ เดอะ เบส สะพานใหม่ มีแบบห้องพักทั้งหมด 4 ประเภท ขนาด 24 – 55.75 ตารางเมตร โดยไฮต์ไลท์ของโครงการ เดอะ เบส สะพานใหม่ อยู่ที่ห้องดีไซน์ Loft ที่ชั้น 14 ของโครงการ โดยโครงการยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ พร้อมให้ลูกค้าลากกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ พร้อมฟรี เฟอร์นิเจอร์, ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท โดยเตรียมทะยอยโอนตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 2563 เป็นต้นไป
