“คลัง” เผย ไวรัสโคโรนา กระทบท่องเที่ยวระยะสั้น



  • เตรียมดึงนักท่องเที่ยวประเทศอื่นมาไทยนอกเหนือจากจีน
  • ชี้เศรษฐกิจไตรมาส 1 ยังประคับประคองไปได้
  • งบปี 63 ล่าช้า ตามกฎหมายเบิกงบไปพลางปี62 ได้ถึง 100%

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้น คาดว่าจะไม่กระทบการบริโภคภายในประเทศมากนัก เพราะปัจจุบันประชาชนก็ยังออกมาจับจ่ายซื้อของกันอยู่ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ก็มีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คอยดูแลและคอยประเมินสถานการณ์เรื่องนี้อยู่

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องไวรัสโคโรนานั้น เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาเพราะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวไทยแต่เป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมการมีอยู่ 2 อย่าง คือ 1.ป้องกันไม่ให้การแพร่ของไวรัสโคโรนาเกิดขึ้น 2.เตรียมแผนล่วงหน้าเพื่อฟื้นภาคการท่องเที่ยวหลังจากโรคไวรัสโคโรนาหมดไป เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทยไม่ให้บินไปเที่ยวประเทศอื่น

“เตรียมวางแผนดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเพิ่มนอกเหนือจากประเทศจีนเข้ามาในไทย เพราะปัจจุบันยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ที่ต้องการมาเที่ยวไทยเยอะ แต่เที่ยวบินที่บินมาไทยถึงเต็มขีดจำกัดของการรับเที่ยวบินของสนามบินแล้ว แต่ช่วงหลังเกิดไวรัสโคโรนาเที่ยวบินก็ลดน้อยลง จึงเตรียมประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ไปชักชวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่มีโรคไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดเข้ามาท่องเที่ยวในไทย โดยจะให้ทอท.ดูว่าจะมาในรูปแบบเช่าเหมาลำได้หรือไม่”

ส่วนเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ของปี 2563(ต.ค.-ธ.ค.62) ยังคงสามารถประคับประคองไปได้ เนื่องจากยอดจัดเก็บรายได้ของกรมจัดเก็บภาษี อาทิ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต เป็นต้น ยังเกินเป้า ส่งออกปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และค่าเงินบาทที่แข็งค่าลดลงด้วย อย่างไรก็ตามเตรียมเสนอเรื่องการขยายเวลายื่นชำระภาษีบุคคลธรรมดาออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือนมี.ค.เป็นเดือนมิ.ย.ของทุกปี ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป เพื่อยืดเวลาให้ประชาชนมีเม็ดเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจช่วงนี้ก่อน

 “ ส่วนเรื่องงบประมาณปี 2563 รัฐบาลกำลังพยายามหาทางออกในเรื่องนี้อยู่ โดยมองว่าถ้าหากล่าช้าจะใช้ตัวกระตุ้นอะไรบ้างที่จะช่วยให้อัดฉีดเงินลงไประบบ ส่วนเรื่องการขยายสัดส่วนการเบิกเงินงบไปพลางปี 2562 นั้น  เป็นเรื่องของสำนักงบประมาณและพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ต้องหารือกัน แต่ตามกฎหมายสามารถเบิกจ่ายได้ถึง 100%”