

- กลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ –ไม่มีสมาร์ทโฟน รับวันแรก 21พ.ค.64
- ไม่ต้องรีบ! ใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64
- ใช้จ่าย “เราชนะ” เต็มวงเงินแล้วกว่า 25.2 ล้านคน
วันที่ 11 พ.ค.2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าว่า วันนี้คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบให้สนับสนุนวงเงินสิทธิ์เพิ่มเติมให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์ภายใต้โครงการเราชนะ ที่ไม่เคยขอสละสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการฯ คนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ รวมเป็นเงิน 2,000 บาท โดยประชาชนจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ตามช่องทางที่เคยได้รับของแต่ละกลุ่มโดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนกลุ่มที่รับสิทธิ์ผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ในวันพฤหัสบดีที่ 20 และ 27 พ.ค. 2564 และสำหรับประชาชนกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน จะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ในวันศุกร์ที่ 21 และ 28 พ.ค. 2564 โดยวงเงินสิทธิ์ที่ได้รับสนับสนุนเพิ่มเติมดังกล่าวสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2564
สำหรับประชาชนกลุ่มรับสิทธิ์ผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ได้ถอนการติดตั้ง (Uninstalling) แอปพลิเคชันไปแล้ว สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ได้จนถึงระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการฯ
ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 11 พ.ค.2564 มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 205,028 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 25.2 ล้านคน ดังนี้
1.ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,843 ล้านบาท 2.ประชาชนกลุ่มแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.2564 เป็นต้นมา จำนวน 115,724 ล้านบาท และ 3.ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,461 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ
