คนไม่มีมือถือไม่ต้องกังวล! ธนาคารรัฐทุกแห่งพร้อมช่วยลงทะเบียน “เราชนะ” วันที่ 15 ก.พ.นี้



  • รัฐเร่งสรุปวิธีการจ่ายเงินกลุ่มไม่มีมือถือ
  • แท็กซี่-ตุ๊กๆ- วินมอเตอร์ไซค์ อย่าลืมลงทะเบียน
  • ข้าราชการชั้นผู้น้อย-ลูกจ้าง ยังต้องลุ้นการช่วยเหลืออยู่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังกล่าวถึงการดูแลกลุ่มที่ไม่มีมือถือที่จะเข้าร่วมโครงการเราชนะ ซึ่งรัฐบาลจะให้เงินจำนวน 7,000 บาท ว่า จะให้ธนาคารกรุงไทย และสถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เป็นต้น เข้าไปช่วยเหลือคนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ รวมทั้งขอร่วมมือกระทรวงมหาดไทยช่วยเหลือลงทะเบียนกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย โดยขอให้ทยอยเวลาลงทะเบียนเริ่มตั้งแต่ 15 ก.พ.นี้

“ส่วนการจ่ายเงินจะเป็นอย่างไรนั้น จะมีการออกบัตรเราชนะ หรือการจัดหามือถือมาให้อย่างไร กำลังคุยเรื่องรายละเอียดอยู่  ส่วนกลุ่มที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เข้าไปช่วยดูแล คือ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้น้อย ลูกจ้าง ที่เดือดร้อนจากโควิดเช่นกันนั้น จะกำหนดไว้ว่าต้องมีเงินเดือนต่ำกว่าเท่าไหร่ต้องไปดูอีกที ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา อาจแยกออกจากเราชนะ เพราะข้าราชการมีกติกาอยู่ คือ เรื่องการรับเงินเดือน”

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ยังเห็นชอบเรื่องบริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะครอบคลุมกรณีบริการขนส่งที่เป็นนิติบุคคล ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถร่วม รถไฟฟ้า และรถไฟ กรณีขนส่งส่วนบุคคล อาทิ แท็กซี่ ตุ๊กๆ วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ก็ต้องลงทะเบียนเช่นเดียวร้านค้าอื่นๆ ในวันที่ 29 ม.ค.2564 โดยเมื่อลงทะเบียนแล้วจะสามารถรับสิทธิเราชนะจากบัตรสวัสดิการได้ในวันที่ 5 ก.พ.2564 และรับสิทธิเราชนะจากแอป “เป๋าตัง”ได้ วันที่ 18 ก.พ.64

ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะประสานกับกระทรวงคมนาคม และธนาคารกรุงไทยจะไปติดตั้งระบบให้เพื่อใช้เป็นค่าบริการค่าตั๋วได้ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบให้นำแอปไทยชนะไปสแกนเพื่อรับบัตรจากที่ซื้อบัตรโดยสาร ส่วนผู้มีบัตรสวัสดิการมีวงเงินเดิมอยู่แล้ว 500 บาทสำหรับค่าเดินทางอยู่แล้วสามารถใช้วงเงินในส่วนไยชนะได้  

“คาดว่าจะมีคนเข้าร่วมโครงการเราชนะ 31.1 ล้านคน ส่วนถ้าหากมีความต้องการมากกว่า 31.1 ล้านคนนั้น จะมีการขยายผู้ได้รับสิทธิหรือไม่ขอดูตัวเลขก่อน แต่คิดว่าในจำนวน 31.1 ล้านคนครอบคลุมแล้ว ส่วนกลุ่มพิเศษข้าราชการชั้นผู้น้อย ลูกจ้าง ส่วนนี้เราจะแยกออกมาอีกจะเป็นเฟสใหม่ แต่ถือว่าอยู่ในมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนจะมีจำนวนเท่าไหร่ ขอหารือกับกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีหน้าที่จ่ายเงินเดือนข้าราชการก่อน”