

- ผลศึกษาพบอากาศร้อนมาเร็วขึ้น-อุณหภูมิสูงขึ้น
- หลังสภาพอากาศเปลี่ยน-ก่อหายนะภัยธรรมชาติรุนแรง
- แนะรัฐบาลนานาประเทศแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทันที
กรีนพีซ เผยรายงานล่าสุด พบ 57 เมืองของจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อากาศร้อนมาเร็วกว่าปกติ และร้อนมากขึ้น หลังสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สร้างหายะภัยทางธรรมชาติบ่อยขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน แนะรัฐบาลทั่วโลก แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทันที
มิกวง คิม ผู้จัดการโครงการด้านสภาพอากาศฉุกเฉินของกรีนพีซประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก (กรีนพีซ อีสต์ เอเชีย) กล่าวว่า จากรายงานชิ้นล่าสุดเกี่ยวกับสภาพอากาศ ที่สำรวจจาก 57 เมืองของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ พบว่า สภาพอากาศร้อนระอุจะเริ่มต้นเร็วกว่ากำหนด และมีความเป็นไปได้สูงที่คลื่นความร้อนจะเกิดบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งชีวิตผู้คน และพืชผลทางการเกษตร โดยกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่ขณะนี้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน จะมีสภาพอากาศรุนแรงผิดปกติ โดยเฉพาะอากาศร้อนจัด
“ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว เป็นลมแดดกันหลายคนเพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัด และช่วงต้นฤดูร้อนปีนี้ อุณหภูมิในกวางตุ้งของจีนรุนแรงมาก โรงงานหลายแห่งตัดสินใจปิดสายการผลิตชั่วคราว ส่วนในเกาหลีใต้ สัตว์ในคอกปศุสัตว์หลายพันตัวล้มตาย เพราะคลื่นความร้อน”
นอกจากนี้ ผลการศึกษาในจีน 28 เมือง ในญี่ปุ่น 21 เมือง และในเกาหลีใต้ 8 เมือง พบว่า โดยในจีน 24 เมืองจาก 28 เมืองนั้น วันที่เผชิญอากาศร้อนวันแรกของปี วัดอุณหภูมิได้ 30 องศาเซลเซียส (86 องศาฟาเรนไฮต์) หรือสูงกว่านั้น และอากาศร้อนมาเร็วขึ้นในช่วงปี 44-63 เทียบกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ส่วนในนครเซี่ยงไฮ้ อากาศร้อนมาเร็วกว่าเดิม 12 วัน ส่วนกรุงปักกิ่ง อากาศร้อนมาเร็วขึ้นโดยเฉลี่ย 4.7 วัน ขณะที่กรุงโตเกียว และกรุงโซล อากาศร้อนมาเร็วขึ้น 11 วันในช่วงปี 44-63 เทียบกับเมื่อ 20 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศ หรืออุณภูมิรุนแรงแบบสุดขั้ว (Extreme Weather Event ) ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของภูมิภาค และยังทำให้เกิดภัยทางธรรมชาติรุนแรง และบ่อยขึ้น เช่น คลื่นความร้อน ภัยแล้ง พายุฝน ซึ่งหายนะภัยทางธรรมชาติ จะเกิดขึ้นบ่อยอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
“อุณหภูมิรุนแรงสุดขั้ว ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตผู้คน จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น นอกเสียจากว่า รัฐบาลประเทศต่างๆจะเลิกใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล และใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานสะอาดแทน ซึ่งรวมถึงพลังงานจากลม และแสงอาทิตย์”
ทั้งนี้ รัฐบาลทุกประเทศต้องดำเนินมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดในทันที เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนท่ามกลางสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้ว และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนด้านสภาพอากาศ เช่น ยุติการให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล และเปลี่ยนไปใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขอบคุณภาพจาก xinhuathai