

- ได้ข้อสรุปหั่นเวลาบังคับใช้เหลือ 90 วัน
- เผยเตรียมนัดประชุมทบทวนอีกครั้ง 15 ม.ค.นี้
- ด้าน ‘สมศักดิ์’ ยันอะไรเป็นประโยชน์เพื่อประชาชน ต้องรีบทำ
วันนี้ (8 ม.ค.64) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ…. โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และประธาน กมธ. เป็นประธานในการประชุม มีวาระการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ฯเป็นรายมาตราซึ่งมีทั้งหมด 8 มาตรา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราต้องเร่งทำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะเคยมีการทำกฎหมายเมื่อ 40 ปีก่อน แต่ยังไม่สำเร็จ แต่ในขณะนี้ตนมั่นใจว่า กมธ.เห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ของทุกท่าน สังคมเรียกร้อง และที่ตนได้ไปพบผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการ ซึ่งไม่มีใครขัดในการปลดล็อกพืชกระท่อม เป็นแนวทางที่เราต้องพิจารณาร่วมกันกระทรวงยุติธรรม โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ได้ยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเราได้กำหนดไทม์ไลน์ไว้อยู่แล้ว แต่อาจจะมีติดขัดบ้าง เพราะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตนยืนยันว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต้องลงมือทำทันที

ทั้งนี้ ในมาตรา 2 การกำหนดให้ พ.ร.บ.นี้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ที่ประชุมได้อภิปรายหารือถึงการกำหนดวันบังคับให้สั้นลงกว่าเดิม โดยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป.ป.ส. ในฐานะเลขานุการ กมธ. ชี้แจงว่า ตอนแรกที่ ป.ป.ส.เสนอเราไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ทางกฤษฎีการมีความเป็นห่วง จึงเสนอให้กำหนดระยะเวลาดังกล่าว เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัว และเพื่อให้มีระยะเวลาในการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ซึ่งอยู่ในขั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วจากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมากในที่ประชุมเห็นด้วยกับการปรับแก้ระยะเวลา
ด้านนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษากมธ. ได้เสนอให้พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทันทีหลังการประกาศใช้ เพราะสารสกัดต่างๆ หรือการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มีกฎหมายและระเบียบควบคุมอยู่แล้ว เช่น องค์การอาหารและยา (อย.) และระเบียบของกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนเจตนารมณ์ของการแก้ปัญหาเรื่องนี้เกี่ยวกับปัญหาของชาวบ้านที่ใช้ตามวิถีชีวิตจะได้ไม่ตกเป็นจำเลยสังคม ตนมองว่าพืชกระท่อมเป็นสมุนไพร เป็นพืชที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเยอะมาก แต่มีการอคติทางวิชาการหรืออะไรก็ตาม
“ส่วนตัวอยากให้ใช้ความหลากหลายทางชีวะภาพพัฒนาประเทศในอนาคต และไม่อยากให้บล็อกพืชกระท่อม ตั้งเงื่อนไขในการปลูกเพื่ออุตสาหกรรม อาจจะทำให้ชาวบ้านปลูกไม่ได้ เราต้องไม่คิดว่ากระท่อมเป็นยาเสพติดแต่เป็นสมุนไพรและทำอย่างไรให้เราใช้ได้ร่วมกันไม่ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์” นายกนก กล่าว
ส่วนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ. กล่าวว่า ตนสนับสนุนกับการให้บังคับใช้ทันที หรือเต็มที่ตนคิดว่าไม่น่าจะเกิน 60 วัน เพราะทางคณะกรรมการกฤษฎีการมีงานด้านกฎหมายเป็นร้อยๆฉบับ ซึ่งก็มองว่าเอาสัก 60 วัน น่าจะเหมาะสม
ขณะที่นายมารุต มัสยวาณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกมธ. กล่าวว่า ตนคิดว่าอะไรทำได้ก็ควรทำเลย ประกาศใช้ทันที หรือ 30 วันก็ได้
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้เวลาการทำงานกับหน่วยงานที่จะต้องออกกฎหมายรองสักเล็กน้อย การทำเร็วถือว่าดี แต่ว่าต้องทำให้ทัน หากทำแบบผลีผลามไปประชาชนส่วนใหญ่อาจจะไม่เข้าใจ อาจจะหาว่าเราใจร้อนไป ซึ่งก็คิดว่าเราพบกันครึ่งทางเอาสัก 90 วัน แล้วไปบริหารเวลาโดยบูรณาการร่วมกันได้หรือไม่
“ที่ผ่านมาตนทำอะไรต้องเร็วอยู่แล้ว ไม่เคยไปกีดกันใคร อะไรที่ทำได้ตนทำหมด แต่อยากให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายการที่มาตัดลดระยะเวลาปกติไม่ค่อยมีใครทำกันอยู่แล้ว แต่ตนให้เกียรติ กมธ.ทุกท่านในการอภิปรายเสนอความเห็น” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธาน กมธ. อภิปรายว่า ทำอย่างไรจะทำให้กฎหมายที่ส่งเสริมพืชกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ และคนที่ตั้งใจจะทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจเขาจะได้คิดล่วงหน้าว่า จะทำผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง และต้องเตรียมการเพาะปลูกอย่างไร ป.ป.ส.สามารถออกระเบียบควบคุมได้ทันเวลาหรือไม่
จากนั้นเสียงที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับระยะเวลาการบังคับใช้ 90 วัน และที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ครบทั้ง 8 มาตรา ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการยกเลิกบทลงโทษเกี่ยวกับพืชกระท่อม โดย กมธ.ได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค. นี้ เพื่อทบทวน ก่อนเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายและลงมติในวาระที่สองและสามต่อไป

ทั้งนี้ต่อมานายเทพไท ได้แถลงผลการประชุมว่า วันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่…พ.ศ. … เป็นรายมาตรา ซึ่งมีทั้งหมด 8 มาตรา โดยมีเนื้อหาสาระที่สำคัญในการยกเลิกพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติด ในมาตราต่างๆดังนี้ มาตรา 7(5) ตัดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดประเภท 1-4 ยกเลิกมาตรา 58/2 ยกเลิกมาตรา 75 วรรค 2 ยกเลิกมาตรา 76 วรรค 2 ยกเลิกมาตรา 76/1 วรรค 3,4 ซึ่งมีเนื้อหาหรือข้อความที่เกี่ยวกับพืชกระท่อมทั้งหมดออกไป
ในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเสร็จสิ้นทั้งฉบับ ซึ่งก็จะนัดประชุมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. 2564 เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของถ้อยคำ ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาลงมติในวาระ 3 ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสร็จทันในสมัยประชุมสามัญนี้อย่างแน่นอน
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดคือ การบังคับใช้กฎหมายหลังมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งร่างเดิมของรัฐบาลกำหนดระยะเวลา 180 วัน แต่ที่ประชุมมีมติให้มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน เพื่อรอให้รัฐบาลจัดทำ พ.ร.บ.พืชกระท่อม เป็นการเฉพาะ เพื่อส่งเสริมและกำกับการใช้พืชกระท่อมต่อไป จึงขอแสดงความยินดีมายังประชาชนผู้กินกระท่อม ที่จะได้มีโอกาสปลูกพืชกระท่อม กินพืชกระท่อมและพกพาพืชกระท่อมได้อย่างเสรีไว้ล่วงหน้าด้วย