ก.ล.ต. ลงดาบ “หมอบุญ” สั่งปรับเงิน 2.34 ล้านบาท ห้ามเป็นกรรมการ-ผู้บริหาร เป็นเวลา 42 เดือน ปมปล่อยข่าววัคซีนไฟเซอร์



วันนี้ (26 ส.ค.65) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) กรณีเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือข้อมูลอื่นใดของ THG ในลักษณะมีผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น THG โดยให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมจำนวน 2,348,834 บาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปรากฏข่าวการให้ข้อมูลของนพ.บุญ ตามสื่อหลายแหล่งว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายและนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer โดยจะรับมอบวัคซีนล็อตแรกจำนวน 5 ล้านโดสภายในเดือนกรกฎาคม 2564 และได้มีผู้ขอให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบการให้ข่าวที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายในกรณีดังกล่าว รวมทั้ง ก.ล.ต. ได้รับการแจ้งเหตุสงสัยจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า นพ.บุญอาจบอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญที่อาจทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น THG อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ)

โดยจากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นพ.บุญซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจของ THG ได้บอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความต่อสื่อหลายแห่ง ทั้งสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ที่ประชาชนสามารถรับข่าวสารได้ในวงกว้างว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อนำเข้าวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ชนิดmRNA ยี่ห้อ Pfizer และจะรับมอบวัคซีนดังกล่าวจำนวน 5 ล้านโดสแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2564 แต่ไม่ปรากฏว่า THG ได้มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนดังกล่าวจริง และช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 นพ.บุญ ยังคงยืนยันการนำเข้าวัคซีนดังกล่าวได้ภายในเดือนสิงหาคม 2564 แต่ต่อมา นพ.บุญได้ยอมรับผ่านทางสื่อว่า ไม่สามารถนำเข้าวัคซีนดังกล่าวตามที่เคยให้ข่าวไว้ได้แล้ว

ข้อความที่ นพ.บุญ เผยแพร่ดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือข้อมูลอื่นใดของ THG ที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือต่อการตัดสินใจลงทุนใน THG การกระทำของนพ.บุญ เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคสอง และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนพ.บุญ โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2,000,000 บาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินจำนวน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน

การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อ