WHO เผยฉีดวัคซีนต้านโควิด 2 โดสต่างชนิดกันได้



  • เหตุวัคซีนออกแบบมาเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันมนุษย์  
  • ป้องกันโควิดเหมือนกันแต่การสร้างแอนติบอดีต่างกัน 
  • คนยุโรปแห่เปลี่ยนวีคซีนหลังฉีดแอสตราเซเนกาเข็มแรก 


WHO ไขข้อข้องใจ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบ 2 โดส โดยใช้วัคซีนคนละแบรนด์ได้หรือไม่

ดร.เคท โอไบรอัน หัวหน้าฝ่ายวัคซีนขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติใช้เพื่อกรณีฉุกเฉินทั่วโลกในขณะนี้ ได้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ในการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ แต่วิธีการผลิตแอนติ บอดีจะแตกต่างกันออกไป

“หากยึดตามพื้นฐานการทำงานของวัคซีน คิดว่า การใช้วัคซีนต่างชนิดกัน ได้ผลในการป้องกันโควิด-19” โอไบรอัน ระบุ

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ กำลังทดสอบการใช้วัคซีนป้องกันแบบ 2 โดสคนละชนิดกัน โดยทดสอบระหว่างวัคซีน ที่ผลิตโดยบริษัท แอสตราเซนเนกา, โมเดอร์นา, โนวาแวกซ์ และไฟเซอร์-ไบออนเทค อีกทั้งยังมีการทดสอบแบบเดียวกันในกลุ่มทดลองขนาดเล็กในสเปน และเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม แม้มีแนวโน้มว่า การฉีดวัคซีนแบบ 2 โดสต่างยี่ห้อกัน จะ “มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ” แต่นักวิจัยชาติตะวันตก ยังคงรวบรวมข้อมูลเพื่อให้แน่ใจมากขึ้น 

ด้านโลเลนซ์ ยัง นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอลวิคของอังกฤษ กล่าวว่า การมิกซ์แอนด์แมทช์วัคซีนประเภทต่างๆ มักจะสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งขึ้น 

หลังจากที่วัคซีนแอสตราเซนเนกาถูกเชื่อมโยงกับอาการลิ่มเลือด ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ฉีดวัคซีนในประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน จึงแนะนำให้ผู้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นเข็มแรกแล้ว รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาเป็นเข็มที่ 2 แทน 

สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ในอังกฤษและแคนาดา เจ้าหน้าที่แนะนำให้ประชาชนควร ฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันทั้ง 2 โดส ในกรณีที่ฉีดแอสตราเซนเนกาเป็นเข็มแรกแล้ว ควรฉีดวัคซีนชนิดอื่น ก็ต่อเมื่อมีประวัติเกิดลิ่มเลือดอุดตันหรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ที่อาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตันสูงขึ้น