Ufi เชิญนายกฯ อิ๊งค์ เปิดบิ๊กโปรเจกต์ซอฟท์พาวเวอร์อาหาร 19 ธ.ค.67

สถาบันอาหาร “Ufi” เชิญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
สถาบันอาหาร “Ufi” เชิญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรี เปิดโครงการใหญ่ “ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร” 19 ธ.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล


สถาบันอาหาร “Ufi” ยัน “นายกฯ อิ๊งค์” นำเปิดตัวโครงการใหญ่ “ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร” 19 ธ.ค.นี้ ที่ทำเนียบ ปี’68 ใช้งบ 500 ล้านบาท ลุย 4 โครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย-ร้านอาหารชุมชน-จัดซื้อเครื่องจักร-พัฒนาผลิตภัณฑ์” เปิดหลักสูตรผลิตเชฟทั่วไทย 18,300 คน

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันอาหาร (Ufi) เปิดเผยว่า ทางสถาบันอาหารมีโครงการใหญ่ ตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมปี 2568 เดินหน้าเพิ่มมูลค่าอาหารด้วยการแปรรูปส่งออก โดยเฉพาะอาหารเทรนด์ 4 กลุ่ม Future Food, Functional Food, Plant Base และ Alternative Food และเตรียมเปิดตัวโครงการ “ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร” วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลไทยให้ความสำคัญนำทุนทางวัฒนธรรมด้านภูมิปัญญามาขยายผลสื่อเป็น ซอฟท์ พาเวอร์ ด้วย “อุตสาหกรรมอาหาร” เป็น 1 ใน 11 อุตสาหกรรม เป็นหนึ่งคลัสเตอร์ดึงดูด นักท่องเที่ยว การส่งออก วิถีชีวิต ทำให้เกิดการซื้อขายสร้างรายได้ในตลาดส่งออกทั่วโลก

นายกฯ อิ๊งค์
สถาบันอาหาร ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) นำอาหารรับMICE และเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวชุมชน

@นายกฯ อิ๊งค์ เปิดซอฟท์พาวเวอร์อาหาร 19 ธ.ค.ที่ทำเนียบ

วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำเปิดโครงการ “ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร” โดยมีเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ : THACCA-Thailand Creative Culture Agency เชฟชุมพล แจ้งไพร ประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร THACCA รวมทั้งสมาคมเชฟ เชฟที่มีชื่อเสียง และอาจารย์ผู้สอน

ในงานเตรียมจัดพิธีลงนามข้อตกความร่วมมือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องการให้ประกาศนียบัตรหลักสูตรเชฟ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมอนามัย รับรองอาชีพ และมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวะศึกษา ซึ่งมี “Kichen Station” สถานที่สอนและเรียน และมีผู้เข้าร่วมงาน 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา ผู้สนใจอาชีพเชฟ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 

รวมทั้งจะสาธิตแนะนำโครงการที่จะขับเคลื่อนตลอดปี 2568 ไฮไลต์ 4 โครงการ ได้แก่ โครงการแรก 1หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย โครงการที่ 2ร้านอาหารชุมชน โครงการที่ 3 จัดซื้อเครื่องจักร เครื่องมือผลิตมาไว้ที่ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมในแต่ละภูมิภาค ทั่วประเทศมี 11 แห่ง โครงการที่ 4 พัฒนาผลิตภัณฑ์ เข้าไปช่วยผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสมุนไพร สุราพื้นบ้าน ต้องหาวิธีทำให้ได้มาตรฐาน ยกระดับสินค้าพื้นบ้าน ปลอดภัย รสชาติดี

เบื้องต้นทางกระทรวงอุตสาหกรรม ต้นสังกัด “สถาบันอาหาร” มอบนโยบายให้เร่งดูแลต่อเนื่องไฮไลต์ 2 โครงการใหญ่ ปี 2568 ได้แก่ 

@ปี’68 เร่งผลิตเชฟมือใหม่ทั่วไทย 18,300 คน

โครงการแรก ยกระดับร้านอาหารชุมชน ให้ได้มาตรฐานโดยมี “เมนู” น่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ในร้านอาหารยืดอายุวงจรชีวิตอาหารแต่ละชนิดสามารถขายได้ด้วย

โครงการที่สอง 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย ลงทุนผลิตเชฟเปิดรับสมัครผู้สนใจอายุ 18-60 ปี ทั้งหมด 18,300 คน แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรก นำร่องทำแล้วเมื่อกุมภาพันธ์ปีนี้ 1,300 คน ใน 2 ภูมิภาค คือ ภาคกลางกับอีสาน เฟส 2 ภายในกุมภาพันธ์ 2568 จะรับทั่วประเทศอีก 17,000 คน

มุ่งผลิตและสร้างสรรค์เชฟเป็นฑูตวัฒนธรรมทางอาหารสื่อไปทั่วโลก เน้นอาหารไทยแท้ จะอบรมทั้งหมด 50 หลักสูตร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเรียนรู้ผ่านออนไลน์ได้ด้วย นอกเหนือจากผลิตเชฟที่ได้มาตรฐานและความรู้ไปประกอบอาชีพแล้ว ตลอดการอบรมยังจะมีเชฟชื่อดัง และอินฟลูเอนเซอร์ยินดีมอบสูตรลับให้ผู้สนใจ 15 เมนู เช่น เมนูไข่พะโล้ ของเอ-ศุภชัย เมนูใหม่ของคุณพ่อลิซ่า ไข่เจียวปู-เจ๊ไฝ เมนูของดร.สุเมธ มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นเมนูอาหารถิ่นเพชรบุรี 

ปลายเดือนธันวาคม 2567 จะนำร่องเปิดอบรมวิทยากรมืออาชีพ 325 คน ตามข้อตกลง MOU ระหว่างสถาบันอาหารกับกระทรวงและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันอาชีวะศึกษา เปิดโอกาสให้อาจารย์ผู้สอนลงสมัครร่วมถ่ายทอดความรู้ให้เชฟต่าง ๆ ด้วยกัน

ส่วนการเรียนการสอนจะทำผ่านออนไลน์ตามนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์ พาวเวอร์หรือ OFOSเบื้องต้นสถาบันอาหารได้รับงบประมาณเพื่อนำไปช่วยสนับสนุนหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องวงงินรวม 500 ล้านบาท กระจายทำโครงการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เป็นค่าอบรมเชฟทั่วประเทศ สร้างการรับรู้แนวทางพัฒนาอาหาร การทำตลาดให้หมวดอาหารได้พัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าสูงขึ้น

@ปั้นร้านอาหารชุมชน/1 หมู่บ้าน 1 เชฟ หวังผลลัพธ์เกิน 200%

ดร.ศุภวรรณ กล่าวว่า สถาบันอาหารจะใช้เงินขับเคลื่อนทั้ง 4 โครงการ ด้วยเกณฑ์สร้างผลเชิงบวกทางเศรษฐกิจเฉลี่ยเกิน 200 % ตัวอย่าง “โครงการยกระดับร้านอาหารชุมชน” เริ่มดำเนินการแล้วโดยคัดเลือกร้านอาหารในภาคกลาง กับอีสาน ช่วง 3 เดือนนี้ จะเปิดตัว 40 ร้าน มีผู้สมัครเข้าร่วมเกือบ 100 ร้าน มีตัวชี้วัด (KPI) ชัดเจนเมื่อเข้าอบรมครั้งนี้แล้วต้องพัฒนา เมนู สถานที่ ทำตลาดออนไลน์ ดึงดูดลูกค้าเพิ่มรายได้รวมไม่น้อยกว่า 15 % แล้วยังต้องขยายผลให้เครือข่ายร้านของฝากในชุมชนได้ด้วย

หรือโครงการ “ผลิต 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ทั่วประเทศปี 2568 ตั้งเป้าไว้ 18,300 ราย ต้องผ่านการเรียนการสอน 240 ชั่วโมง แบ่งเป็น เรียนออนไลน์ 90 ชั่วโมง กับลงมือปฏิบัติจริงลงมือทำอาหารเมนูต่าง ๆ อีก 150 ชั่วโมง และต้องได้ใบรับรองจากสถาบันวิชาชีพด้วยการตรวจของสถาบันฝีมือแรงงานหรือกรมอนามัย 

ขณะนี้สถาบันอาหารจับมือกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมไทย ร้านอาหารรายใหญ่ สถานฑูตไทยในต่างประเทศ ปูพรมส่งเชฟที่ผ่านการอบรมไปทำงานตามร้านอาหาร คาดจะมีคนเรียนจบหลักสูตรเชฟเกิน80 % 

@ดันอาหารผนึกท่องเที่ยวและไมซ์ดันเศรษฐกิจชุมชนอู้ฟู่

ดร.ศุภวรรณ ยืนยันว่า วางกลยุทธ์เชื่อมโยงสร้างรายได้เข้าประเทศนำ “อาหารผนวกเข้ากับการท่องเที่ยว” เริ่มจาก “ชุมชน” ใช้อาหารดึงดูดคนเข้าไปเที่ยวและใช้บริการ แต่ปัจจุบันยังขาดการบูรณาการความร่วมมือ ทางสถาบันอาหารจึงร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ภาคอีสาน เปิดตัว MICE Coffee Break ทำเมนูให้ถูกใจกลุ่มตลาดประชุมสัมมนา โดยดึงอัตลักษณ์ชุมชนให้โดนใจตลาด ซึ่งจะนำรูปแบบมาใช้กับโครงการ ซอฟท์ พาวเวอร์ อาหาร ด้วย ทำเรื่องแรก “อาหารปลอดภัย :Food Safty” ต้องมาก่อนรสชาติ เพื่อให้นักเดินทางสบายใจเมื่อเลือกรับประทานอาหารในพื้นที่ชุมชน เรื่องที่ 2 สร้างเมนูประจำถิ่น เรื่องที่ 3 สอนเทคนิคการทำตลาดขายอาหารผ่านออนไลน์ นอกเหนือจากนักเดินทางที่เสาะแสวงหามาหาร้านตามซอกมุมต่าง ๆ 

ปัจจุบันเทรนด์โลกมุ่งสู่อันดับต้น ๆคือ “อาหารอนาคต-Future Food” มีทั้ง อาหารเพื่อสุขภาพ ชะลอวัย อาหารเฉพาะโรค เช่น ความดัน เบาหวาน สำคัญสุดตอนนี้ “ผู้ประกอบอาหาร” จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะที่อยู่ไลน์โปรดักซ์ Food lost-Food Waste-Food Ugly บางครั้งผู้ประกอบการทิ้ง หรือเกษตรกรทิ้งโดยไม่สนใจส่วนประกอบของวัตถุดิบ ตอนนี้สามารถนำอาหารเหล่านี้มาแปรรูปแล้วทำยอดขายได้ดีมาก สถาบันอาหารจึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการมาขอคำแนะนำและใช้อุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างเข้มแข็งร่วมกัน

เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ แพทองธาร ชู ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมรับมือความท้าทาย เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค