

ผู้แทนการค้าไทย “ชัย วัชรงค์” หารือนายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย ร่วมหาแนวทางส่งออกโคเนื้อสู่ตลาดเพื่อนบ้าน ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย แก้ปัญหาราคาตกต่ำและสารเร่งเนื้อแดง พร้อมเพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้วยมาตรฐานการตรวจสอบย้อนกลับ
วันนี้ (9 ตุลาคม 2567) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทยเป็นประธานหารือกับ นางนวลละออง ศรีชุมพล นายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทยและคณะเพื่อหารือแนวทางในการพัฒนาส่งออกโคเนื้อของไทย
ผู้แทนการค้าไทยและนายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย หารือถึงปัญหาการส่งออกโคเนื้อในปัจจุบัน ที่มีปัญหาราคาตกต่ำ การระบายโคมีชีวิต รวมถึงปัญหาของการใส่สารเร่งเนื้อแดง โดยรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกโคเนื้อของไทยอย่างต่อเนื่อง และแสวงหาวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวผ่านการประชุมกับผู้ประกอบการ เกษตรกร โคนม และสมาคมที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
สมาคมฯ เสนอเปิดตลาดโคเนื้อของไทย ไปยัง CLMV มากขึ้น
นายชัยกล่าวว่านายกสมาคมฯ ได้เสนอแนะถึงแนวทางในการเปิดตลาดโคเนื้อของไทย ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้น โดยเฉพาะในมาเลเซีย และ เวียดนาม โดยส่วนของมาเลเซียนั้น มีแนวโน้มที่ดีต่อความร่วมมือของไทย พร้อมทั้งมีการส่งเสริมในเรื่องHalal hub แต่ก็มีข้อกำหนดเรื่อง สารเร่งเนื้อแดง และ อินเดียที่เป็นเจ้าตลาดเนื้อโคแช่แข็งอยู่ในมาเลเซียฝั่งแผ่นดินใหญ่ ทำให้ไทยเริ่มจากการเจาะตลาดบริเวรรัฐซาบาห์เป็นหลัก
ไทยมีแผนที่จะส่งโคมีชีวิตไปยังมาเลเซีย
ทั้งนี้ ไทยมีแผนที่จะส่งโคมีชีวิตจากไทยไปยังมาเลเซีย เพื่อเติมเต็มในส่วนที่มาเลเซียต้องการเพิ่มจำนวนโคเนื้อแดงเพื่อนำไปเลี้ยงในประเทศให้ได้ 30% โดยทางสมาคมฯ มีแผนในการลงทุนในระบบการตรวจสอบย้อนกลับ ในโครงการ “โคไทย ปลอดภัยไม่ใช้สารเร่ง” ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงการใช้สารเร่งเนื้อแดง และวัคซีน เพื่อให้ตลาดผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าจะได้บริโภคเนื้อโคที่ปลอดสาร โดยผู้ประกอบการที่ผ่านการตรวจสอบ ทางสมาคมฯจะออกใบรับรองให้ ซึ่งจะทำให้สามารถส่งออกได้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าปกติ
ในส่วนของตลาดเวียดนาม เป็นโอกาสอันดีของไทยในการเข้าไปเปิดตลาด เนื่องจากมีความต้องการประเภทของเนื้อแดง ที่เป็นเนื้อสด แต่เจอปัญหาว่า โคมีชีวิตที่ส่งไปขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควรเนื่องจากราคาเป็นไปตามราคาของตลาดเนื้อโลก ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมเจรจากับภาคเอกชน และโรงเชือดที่เวียดนาม เพื่อให้เกิดBusiness Matching สำหรับการแก้ไขปัญหานี้
สมาคมฯ เสนอแผนให้มีการยื่นเรื่องเพื่อรับรองคอกกัก
นอกจากนี้สมาคมฯ เสนอแผนให้มีการยื่นเรื่องเพื่อรับรองคอกกักเหมือนการรับรองโรงเชือดไก่ และเสนอให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรไทยผู้เลี้ยงโคเนื้อ โดยการออกสินเชื่อ Soft loan เพื่อให้เกษตรกรมีทุนในการเลี้ยงโคเนื้อ และเพิ่มปริมาณการส่งออกได้ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ การระบายการส่งออกโคเนื้อ 10,000 ตัวต่อเดือน เกษตรกรมีรายได้มากขึ้นจากราคารับซื้อเนื้ออย่างต่ำ 75 บาท ต่อกิโลกรัม
ผู้แทนการค้าไทยเน้นย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้มีการระบายโคเนื้อในไทยสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อทำให้เกษตรได้ขายโคเนื้อได้ราคาที่เหมาะสม ผู้ประกอบการพอใจ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้มีแหล่งเงินทุนช่วยสนับสนุน รวมถึงเพิ่มการเปิดตลาดในต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลพยายามแสวงหาตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและมาเลเซีย และกำลังพยายามจับคู่ธุรกิจ พัฒนาการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อพัฒนามาตรฐาน ทั้งนี้ สมาคมฯ พร้อมทำงานร่วมกับผู้แทนการค้าไทยในการทำแผนการเพื่อให้มีช่องทางค้าขายได้มากขึ้น และพร้อมหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผู้แทนการค้าไทย พบ รมว.เพาะปลูกมาเลเซีย ขับเคลื่อนการค้า การลงทุนอุตสาหกรรม ยางพารา