คนเดินทางสงกรานต์6วันทะลัก15.03 ล้านคน

หมอชิต2 เดินทางกลับบ้าน สงกรานต์ บขส.
บรรยากาศประชาชนรอเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ที่หมอชิต2
  • ประชาชนเดินทาง 15.03 ล้านคน-เที่ยว
  • ระบุใช้ถนนทางหลวงสายหลักเข้า-ออกกรุงเทพฯ
  • ขอความร่วมมือประชาชนเดินทางตามกฎจราจร

“สุริยะ” เผยภาพรวมการเดินทางขนส่งสาธารณะ ช่วงสงกรานต์ 2567 รวม 6 วัน (11 – 16 เม.ย. 67) ประชาชนเดินทาง 15.03 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.92% ระบุใช้ถนนทางหลวงสายหลัก-ทางด่วนเข้า-ออกกรุงเทพฯ กว่า 13.87 ล้านคัน พอใจบุคลากรลุยงานอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยเต็มที่ ช่วยยอดอุบัติเหตุ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 สะสม 6 วัน (11 – 16 เมษายน 67) ว่า มีปริมาณการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศและระหว่างประเทศ อยู่ที่ 15,035,465 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจากการร่วมมือของทุกหน่วยงานจึงทำให้การบริหารจัดการการขนส่งสาธารณะ สามารถรองรับ การเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยระบบรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 43.41% 

หมอชิต2 เดินทางกลับบ้าน สงกรานต์ บขส.
บรรยากาศประชาชนเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ที่หมอชิต2

สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด ประกอบด้วย ทางถนน ทางราง และ ทางอากาศ โดยแยกตามภาคได้ดังนี้ 1.ทางราง 485,323 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 87,911 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 128,122 คน ภาคตะวันตก 43,478 คน ภาคตะวันออก 54,934 คน

และภาคใต้ 170,878 คน 2.ทางอากาศ 543,017 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 79,576 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 56,815 คน ภาคกลาง (ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ) 253,038 คน ภาคตะวันออก (อู่ตะเภา) 1,286 คน ภาคใต้ 151,802 คน และภาคตะวันตก (หัวหิน) 500 คน

3ทางถนน 822,725 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 113,377 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 191,696 คน ภาคกลาง 190,365 คน ภาคตะวันออก 103,749 คน และภาคใต้ 176,364 คน ทั้งนี้ การเดินทางด้วยรถหมวด 3 เป็นการเดินทางระหว่างจังหวัด 47,174 คน ไม่มีข้อมูลแยกรายภาค

ขณะที่ ปริมาณจราจรบนถนนทางหลวงผ่าน 10 จุดสำรวจที่เป็นเส้นทางเข้า/ออก กรุงเทพฯ – ปริมณฑล ของกรมทางหลวง (ทล.) และทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีปริมาณรวม 13,877,651 คัน เป็นการเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ 9,645,974 คัน และขาออกกรุงเทพฯ 4,231,677 คัน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุ ประจำวันที่ 16 เมษายน 67 พบว่า เกิดอุบัติเหตุรวม 161 ครั้ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.50% และลดลง 12.50% จากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 67

ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บ รวม 195 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.72% และลดลง 15.21% จากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 67 ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28% และลดลง 18.18% จากเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567

สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด 6 อันดับ ยอดรวมสะสม 6 วัน (วันที่ 11-16 เมษายน 67) ได้แก่ อันดับที่ 1.ประเภทรถจักรยานยนต์ จำนวนเกิดเหตุรวม 684 ครั้ง อันดับที่ 2.รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ จำนวนเกิดเหตุ 608 ครั้ง อันดับที่ 3.รถยนต์นั้งส่วนบุคคล  จำนวนเกิดเหตุรวม 517 ครั้ง  อันดับที่ 4.รถบรรทุกพ่วง (มากกว่า 10 ล้อ) จำนวนเกิดเหตุรวม 47 ครั้ง

อันดับที่ 5.รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวนเกิดเหตุรวม 39 ครั้ง และ อันดับที่ 6.รถสามล้อเครื่อง จำนวนเกิดเหตุรวม 33 ครั้ง ซึ่งสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุเกิดจาก ขับขี่ยานพาหนะโดยไม่เคารพกฎหมายจราจรและขับขี่เร็วเกินกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะบริเวณทางตรง ไม่มีความลาดชัน 

ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐ ขอความร่วมมือกับประชาชนทุกภาคส่วน ให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ และเคารถกฎหมายจราจรเป็นที่ตั้ง หากพบผู้กระทำผิด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินผู้กระทำผิดการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดทันที ขณะที่ภาพรวมสะสม 6 วัน (11 – 16 เมษายน 67) พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 1,286 ครั้ง โดยมีผู้บาดเจ็บรวม 1,446 ราย และ ผู้เสียชีวิต 166 ราย ทั้งนี้ โครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศ ยังคงไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 67 มีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ 2567 จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 ขบวน ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ขบวน และสายเหนืออีก 2 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มประมาณ 5,000 คน

นอกจากนี้ รฟท. ได้พ่วงตู้โดยสารเพิ่มเติมเข้ากับขบวนรถที่มีเดินประจำในทุกเส้นทางให้เต็มหน่วยลากจูง จัดเตรียมรถโดยสารสำหรับหมุนเวียนเพิ่มเติมรวมกับขบวนรถที่มีเดินประจำในทุกเส้นทาง 214 ขบวนต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงถึง 105,000 คน ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทาง และไม่มีผู้โดยสารไม่มีตกค้าง โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการขบวนรถเสริม ประมาณ 5,000 คน ขบวนรถปกติประมาณ 100,000 คน

นายสุริยะ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 67 มีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ตนจึงได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง และเตรียมพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ ต้องมีเพียงพอกับปริมาณผู้โดยสาร ต้องไม่มีการเอาเปรียบคิดค่าโดยสารเกินจริงอย่างเด็ดขาด

และมีการบริหารจัดการเชื่อมต่อการเดินทางจากสถานีขนส่ง รถโดยสารสาธารณะ รถไฟ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านถนนยังคงเน้นย้ำให้ดูแลอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงขากลับให้เกิดความคล่องตัว สร้างความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน  อีกทั้ง เพิ่มพื้นที่และการสนับสนุนระบบการจราจร ลดปัญหาจุดที่เป็นคอขวด รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการประชาชนตลอดเส้นทาง