“ลุงป้อม-ทักษิณ” สุดแค้น…แสนรัก

ทักษิณ-บิ๊กป้อม
“ลุงป้อม-ทักษิณ” สุดแค้น...แสนรัก


การกลับมาของ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็เป็นการส่ง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” กลับบ้านเช่นกัน

ถอดรหัสการเมืองแสนวุ่นวายในขณะนี้ เพราะรุ่นเก๋าเขาตีกัน นับตั้งแต่ “ทักษิณ” ได้ใบบริสุทธิ์ ก็เริ่มปฏิบัติการณ์เช็คบิล “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร ทันที!!!

เปิดฉาก “อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีถึงคู่ปรับตลอดกาล เบื้องหลังชีวิตที่ถูกจัดหนักจัดเต็มว่าจุดเริ่มต้นมาจากการที่บ่นว่า “(พล.อ.ประวิตร)เป็นทหารจะมาเป็นประธานป.ป.ช.ได้ไง เพราะประธานป.ป.ช.ต้องมีความรู้ด้านกฎหมาย” และแล้วเสียงบ่นก็ดังไปถึงหู “ลุง”!!! จากนั้นก็เป็นเรื่องเรื่อยมา

หากยังจำกันได้ ทักษิณเคยฝากข้อความถึง พล..ประวิตร ว่า เราอายุมากๆกันแล้ว ฟังธรรมะสักหน่อย จิตใจได้สงบ

สะกัดพปชร. พังทุกฝ่าย

ทว่า หลังเหตุการณ์นั้น เกมเขย่าพรรคพลังประชารัฐก็เริ่มต้นขึ้น โดยการเขี่ยพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และดึง “พรรคประชาธิปัตย์” เข้าวงแทน 

งานนี้หมัดแลกหมัด ทุกฝ่ายเจ็บตัวกันถ้วนหน้า “พลังประชารัฐ” เสียหน้า แถมยังโดนริบดาบหมดอำนาจ ส่วน พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ โดนชาวบ้านด่าถ้วนหน้า ว่า “หักหลังประชาชน”  “หลอกคนไปตาย” “ตระบัดสัตย์” ซึ่งไม่ทราบว่าการเมืองครั้งหน้าจะเหนื่อยมากน้อยเพียงใด เพราะขณะนี้ในสายตาของประชาชน พรรคการเมืองทั้งสองพรรคหมดความน่าเชื่อถือ 

อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าหาก “เพื่อไทย” ต้องทำเช่นนี้ เพราะขืนยังปล่อยให้ “คนของลุงป้อม” นั่งประชุมกับรัฐบาล อาจโดนแว้งกัด อัดคลิป ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ในการล่มพรรคเพื่อไทย ดังนั้น จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม!!!

บ้านป่าฯส่งเด็กร้องยุบเพื่อไทย

เมื่อ “เพื่อไทย” เปิดฉากเล่นเกมแล้ว ลุงบ้านป่าฯแม้เป็นทหารแก่แต่สายเลือดทหารต้องสู้ยิบตา จึงมอบทีมยุทธศาสตร์พรรคเดินงาน เล่นนิติสงคราม 

ส่งทนายคนเดิม ธีรยุทธ สุวรรณเกสร ที่เคยยื่น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตสส.และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมพวก ในข้อหาล้มล้างการปกครอง จากการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง มายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองฯ

โดย “ทนายธีรยุทธ” เชื่อว่า 6 พฤติการณ์ของ “ทักษิณ” ดังข้างล่างนี้ เป็นการครอบครอง ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการพรรคเพื่อไทย 

ประกอบด้วย 1.ภายหลังทักษิณได้รับอภัยโทษ ได้ใช้พรรคเพื่อไทยไปสั่งการหน่วยงานรัฐ เพื่อไม่ต้องรับโทษในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ซึ่งเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบัน 

2.ครอบงำเพื่อไทย สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์กับผู้นำกัมพูชา เพื่อแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและก๊าซในทะเล กรณีพื้นที่ทางทะเลทับซ้อน 

3.สั่งการพรรคเพื่อไทยสมคบพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคนี้มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง 

4.ครอบงำพรรคเพื่อไทย หารือเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ แทนนายเศรษฐาทวีสิน ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า 

5.สั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และ

6.ครอบงำเพื่อไทยให้นำนโยบายที่แสดงวิสัยทัศน์ไปเป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา

สาวไส้ดิไอคอนถึงนายใหญ่พรรคการเมือง

เรื่องนี้จะเริ่มต้นขึ้นหรือไม่ ด่านแรกต้องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้วินิจฉัยหรือไม่ หากรับไว้ทั้ง “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย มีร้อนวูบวาบแน่ ในทางตรงกันข้ามถ้าศาลไม่รับไว้ก็ถือว่าจบ ทหารแก่กลับบ้าน 

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งเรื่องที่จะกลายเป็นผีซ้ำด้ามพลอย ไปๆมาๆ รากของ ดิ ไอคอน กรุ๊ป ก็คนการเมืองที่เดินเข้าออกรัฐสภานี่แหละ ที่เป็นบอสตัวจริง ทำมาหากินเป็นขบวนการ 

โดยล่าสุด ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ผ่านเจ้าหน้าที่พรรครับเรื่อง 

เพื่อให้พรรคมีมติขับนาย ส. ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จากกรณีที่มีข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด หรือไม่

ประเด็นดังกล่าว รัฐบาลดูเอาจริงเป็นพิเศษ หากสืบค้นได้ว่าโยงถึง “ตัวใหญ่” ก็จะเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา พรรคพลังประชารัฐถึงคราวโดนถอนรากถอนโคนแน่นอน 

และนี่ก็คือเรื่องราวสุดแค้นระหว่าง “ลุงบ้านป่า” กับ “ลุงบ้านจันทร์ส่องหล้า” ซึ่งยังไม่รู้ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร ทั้งที่ก่อนหน้ารัฐบาลเพื่อไทย โดย “เศรษฐา ทวีสิน” ก็รักกันดีกับพรรคพลังประชารัฐก็ตาม.

พรรคพลังประชารัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “นิด้าโพล” ชี้ประชาชน 35% ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล “แพทองธาร” มอง “ทักษิณ”ครอบงำ