นายกฯ แพทองธาร หารือนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ตกลงจัดลำดับความสำคัญ เร่งแก้ 5 ปัญหาเร่งด่วน พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือ 6 ฉบับ
วันนี้ (8 ตุลาคม 2567) เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานนายกรัฐมนตรีสปป. ลาว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการและร่วมการหารือเต็มคณะกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่านายกฯขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและ สปป.ลาวเป็นเพื่อนบ้านที่มีความเชื่อมโยงผูกพันและร่วมมือใกล้ชิด ทั้งนี้ขอขอบคุณรัฐบาล สปป.ลาว ที่ถวายการต้อนรับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยินดีที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน สปป. ลาว มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมขอเชิญนายกรัฐมนตรี สปป. ลาวและภริยาเยือนไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่ต้องเลื่อนออกไป
ในปีหน้า ทั้งสองประเทศจะมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเน้นการมีส่วนร่วมในระดับประชาชนและท้องถิ่นให้มากที่สุด
นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว กล่าวว่า ไทยและ สปป. ลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติ มีการหารือและแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในหลากหลายโอกาสอย่างสม่ำเสมอ การเดินทางเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการของยังจะได้ติดตามประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองได้หารือในประเด็นที่สนใจร่วมกัน ดังนี้ การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาข้ามแดนที่สำคัญ
จัดลำดับความสำคัญ (top priorities) 5 ด้าน
โดยทั้งสองประเทศจัดลำดับความสำคัญ (top priorities) 5 ด้านได้แก่ (1) ยาเสพติด (2) Online Scams (3) การค้ามนุษย์ (4) หมอกควันข้ามแดน และ (5) การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง
(1) ยาเสพติด หน่วยงานไทยและ สปป.ลาว ได้ร่วมกันจัดทำกรอบแนวทางเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาตามชายแดน ซึ่งเป็นผลจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กับนายกรัฐมนตรีนายสอนไซฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทย เสนอจัดการประชุมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับเจ้าแขวงชายแดน และหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศในต้นปีหน้า เพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินการตามกรอบแนวทางดังกล่าว
(2) Online Scams ไทยและลาวจริงจังและให้ความสำคัญในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรม online scams ขอให้ไทย-สปป.ลาว เร่งรัดการจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และ online scams ตามแนวชายแดนไทย-สปป. ลาว และให้มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้คืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
(3) ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหา Online Scams เห็นควรให้ขยายผลเพื่อจับกุมและดำเนินคดีกับกลุ่มอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลัง ช่วยเหลือและส่งกลับผู้ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานแล้วและให้ผู้แทนตำรวจระดับสูงของไทยและลาวมีการหารือเพื่อนำไปสู่การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาดโดยเร็ว
(4) ประเด็นหมอกควันข้ามแดน ยินดีที่ในเดือนตุลาคม นี้จะมีการเปิดตัวแผนปฏิบัติการภายใต้ CLEAR Sky Strategy ระหว่างไทยสปป. ลาว และเมียนมา ซึ่งในระยะต่อไปขอให้มีการเชื่อมโยงDatabase และ Early Warning System เกี่ยวกับคุณภาพและสภาพภูมิอากาศของไทย สปป. ลาว และประเทศในภูมิภาคเข้าด้วยกัน
(5) การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง โดยนายกฯสอนไซฯ ส่งสารแสดงความเสียใจเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของไทย พร้อมแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจ สปป.ลาว ที่มีอุทกภัยในหลายแขวงด้วย
ทั้งนี้ผู้นำทั้งสองมีการลงนาม MOU ด้านการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการระหว่างกัน ยืนยันจะใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
ยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างกัน
นอกจากนี้ ไทยและ สปป. ลาว จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะสองฝั่งแม่น้ำโขง รวมทั้งความร่วมมือ
ด้านการท่องเที่ยว ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไทยพร้อมพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขในลาว ภายใต้แผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไทย-ลาว ระยะ 3 ปี (ค.ศ. 2022-2025)
สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานนั้น นายกรัฐมนตรียืนยัน ไทยต้องการให้แรงงานต่างชาติทุกคนได้เข้าถึงสิทธิและบริการต่าง ๆในระหว่างที่ทำงานในไทย ขอให้ไทยและ สปป.ลาว ร่วมกันส่งเสริมให้แรงงานลาวเข้ามาทำงานในไทยโดยผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมฝากสปป.ลาว ดูแลคนไทย และการลงทุนของไทยในสปป.ลาว ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชม สปป. ลาว ในฐานะประธานอาเซียน สำหรับบทบาทที่แข็งขันเกี่ยวกับเมียนมา ไทยในฐานะเพื่อนบ้านของเมียนมา จะร่วมมือกับอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา โดยเฉพาะลาว จีน และอินเดีย เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ในเมียนมาโดยเร็ว พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้
เป็นสักขีพยานในการลงนาม ความตกลง จำนวน 6 ฉบับ
จากนั้น ผู้นำร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและสปป. ลาว จำนวน 6 ฉบับ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสปป.ลาว จำนวน 6 ฉบับ และการส่งมอบผลการศึกษาและรายละเอียดการออกแบบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขงเชียงแมน- หลวงพระบาง ดังนี้
1. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ
2. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่นกับนครหลวงเวียงจันทน์
3. บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือในการบริหารทรัพยากรบุคคล 4. บันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการค้าภายใน กับ กรมมาตรฐานและวัดแทก
5. บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ 6. และหนังสือแสดงเจตจำนง ระหว่างกรมทางหลวง และกรมขัวทาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐบาลสนับสนุนเงินกู้ขยายเส้นทางรถไฟไทย-ลาว ระยะ 2 คาดเปิดใช้ปลายปี