ท่องเที่ยวเชิงอาหาร บูม ก.ท่องเที่ยว ร่วม UN Tourism ถก 43 ชาติ

ชูอาหารไทยเป็นซอฟท์เพาเวอร์
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมการท่องเที่ยวเชิงอาหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขององค์การการท่องเที่ยวโลก Gastronomy Tourism for People and Planet จัดครั้งแรกที่ เซบู ฟิลิปปินส์


กระทรวงการท่องเที่ยวฯ นำทีมร่วมเวทีโลก “UN Tourism” จัดครั้งแรกที่เซบูฟิลิปปินส์ ไทยร่วมหารือสมาชิก 43 ประเทศ เปิดจุดขาย “ท่องเที่ยวเชิงอาหาร” เต็มรูปแบบหลังปี’61 ไทยปูพรมเป็นผู้นำทำปฏิญญา ท่องเที่ยว เชิง อาหาร อาเซียนไว้แล้วปี’67 ตั้งสถาบันอาหารขานรับซอฟท์พาวเวอร์

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมเข้าร่วมประชุมการท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขององค์การการท่องเที่ยวโลก (The 1st UN Tourism Regional Forum on Gastronomy Tourism for Asia and the Pacific: Gastronomy Tourism for People and Planet)

ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2567 ที่เมืองเซบู ฟิลิปปินส์ มีผู้แทนประเทศสมาชิกการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติหรือ UN Tourism เข้าร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยกันกว่า 43 ประเทศ

ประกอบด้วยหน่วยงานองค์กรภารรัฐและเอกชนกว่า 800 คน โดยได้ใช้เวทีดังกล่าวเสวนาพร้อมกำหนดกรอบนโยบายที่จำเป็นเพื่อพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เน้นสร้างโอกาส ให้ประเทศจุดหมายปลายทาง ซึ่งมีความพร้อมสร้างจุดขาย กระจายความหลากหลายผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว รวมทั้งไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความโดดเด่นเรื่องอาหารเป็นดาวรุ่งหนึ่งในพลังซอฟท์ พาวเวอร์

กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ดัน Soft power อาหารไทย
นโยบายท่องเที่ยวเชิงอาหารจะช่วยภาคการเกษตรสร้างอาชีพ รายได้ และเศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร” เป็นนโยบายลำดับต้น ๆ ของการท่องเที่ยวไทย ด้วยศักยภาพของประเทศไทยมีความหลากหลายค่อนข้างสูงครบเกือบทุกมิติทั้งทางชีวภาพ วัฒนธรรม ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นเมืองเกษตรกรรม จุดเด่นที่ช่วยเหมาะสมกับการขับเคลื่อนท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกต่างให้การยอมรับเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้หลงอาหารไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี

ประเทศไทยนำร่องเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน ที่จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2561 โดยได้ริเริ่มทำแผนแม่บทการพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงอาหารอาเซียน และปฏิญญาการท่องเที่ยวเชิงอาหารอาเซียน โดยมีที่ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนให้การรับรองไว้เรียบร้อยแล้ว กระทั่งปี 2567 ไทยได้จัดตั้ง “Thailand Gastronomy Network” สำเร็จแล้ว พร้อมกับความก้าวหน้าในการจัดตั้งสถาบันอาหารหรือ Gastronomy Academy พัฒนาแพลตฟอร์ม E-learning จัดทำ Gastronomy Trail & Visit และเส้นทางอาหารเพื่อการเดินทางเข้ามาเรียนรู้และร่วมปฏิบัติการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ (Sustainable Food Learning Journey & Workshop)

ปัจจุบัน รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ด้วยการยกให้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE Thailand จัดอยู่ในกลยุทธ์แรก “5 Must Do in Thailand : 5 อย่างที่ต้องทำในเมืองไทย”

ท่องเที่ยวเชิงอาหาร
การท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ซอฟท์ พาวเวอร์ และ 1 เชฟ 1 หมู่บ้านของรัฐบาลไทย

ได้แก่ Must Beat ชมกีฬามวยไทย Must Eat กินอาหารไทย Must Seek สัมผัสวัฒนธรรมไทย Must Buy ซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์พื้นเมือง/ชุมชนในไทย และ Must See ชมการแสดงวิถีไทย โดยมี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วางยุทธศาสตร์ ส่งเสริมให้อาหารไทยสู่ครัวโลกในโครงการ 77 อาหารถิ่น 77 ขนมไทย สอดคล้อง กับนโยบายของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ (THACCA) ตั้งเป้าหมายจะขับเคลื่อน 1 เชฟ 1 ตำบล กระตุ้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตอบ 4 โจทย์ใหญ่ ได้แก่

  • โจทย์ที่ 1 ยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวให้ได้รับประสบการณ์อาหารอันเป็นเอกลักษณ์และแท้จริง
  • โจทย์ที่ 2 ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมผ่านอาหารไทยดั้งเดิม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชาติไทยมาอย่างยาวนาน
  • โจทย์ที่ 3 กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยการสนับสนุนเกษตรกร ผู้ผลิตอาหาร เชื่อมโยงไปถึงผลิตภัณฑ์ของฝาก เป็นห่วงโซ่ในระบบนิเวศน์ที่จะทำให้ “วัฒนธรรมอาหาร” กลายเป็นเรื่องทรงอิทธิพลที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงมุ่งเน้นสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ความเป็นดีอยู่ดีของคนในสังคมไย นำพาประเทศก้าวสู่เป้าหมายการจัดการอย่างยั่งยืน
  • โจทย์ที่ 4 กระจายผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวนำไปสู่การสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร การเรียนทำอาหาร การจัดเทศกาลอาหาร เป็นปฏิทินท่องเที่ยวประจำปีในแต่ละท้องถิ่นได้

-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐบาลขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ผลิต e-Book สอนทำอาหารไทย