TCEB ลั่นปี’68 นำไมซ์ โกย 2 แสนล้าน ลุยซอฟท์พาวเวอร์ OEOP

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ประกาศนำธุรกิจไมซ์ทั้งประเทศปี 2568 ทำรายได้สร้างเศรษฐกิจไทยคึกคัก 200,000 ล้านบาท


TCEB ต.ค.นี้ใส่เกียร์ลุยปี’68 ทำรายได้ 2 แสนล้านบาท ขับเคลื่อน 5 หมุดหมาย 4 อุตสาหกรรม “นวัตกรรมอาหารมั่นคง-เฮลท์เทค-ครีเอทีฟ ซอฟท์ พาวเวอร์-แอดวานซ์ เมนูแฟคเจอริ่ง/ลดคาร์บอน” ไฮไลต์ 2 โปรเจกต์ “MICE Sustainable และ OEOP : One Event One Soft Power ชูแฟลกซ์ชิพในประเทศไมซ์โปรดักซ์ชุมชนโกอินเตอร์

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2567 ทีเส็บสามารถนำอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศที่จะปิดปีงบประมาณเดือนกันยายนนี้ทำได้ 80 %ของปีปกติ 2562 หรือประมาณ 180,000 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 75 % มาจากตลาดการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (E :Exhibition) ดีกว่าเป้าหมาย 10 % เนื่องจากมีสถานที่จัดงานลงทุนพัฒนาเพิ่มพื้นที่มากขึ้นทั้งศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไบเทค อิมแพ็คเมืองทองธานี และอื่น ๆ รวมทั้งต่างจังหวัดยกระดับเอ็กซิบิชั่น (Exhibition) ตลาดประชุมและได้รางวัลการเดินทาง MI :Meeting &Incentive ก็คึกคักมากจากการทำโร้ดโชว์กับเทรดโชว์ ล่าสุดนำผู้ประกอบการไมซ์ไทยเดินทางไปเจาะกำลังซื้อในอินโดนีเซียเป็นกลุ่มที่น่าสนใจซึ่งมีไมซ์คุณภาพ แต่ละกรุ๊ปใช้จ่ายเงินสูงมาก กลยุทธ์นี้จึงตอบโจทย์รัฐบาลเรื่องการสร้างเศรษฐกิจเข้าประเทศ

Soft Power
ตั้งแต่ ต.ค.2567 เริ่มงบประมาณใหม่ปี 2568 ตลาดไมซ์ต่างประเทศทั้งจัดประชุมและเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (MI :Meeting Incentive) กับจัดงานแสดงสินค้า (E :Exhibition) เลือกไทยเป็นจัดงานมากมาย

แผนงานปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเริ่มตุลาคม 2567-30 กันยายน 2568 รัฐบาลสนับสนุนมากขึ้น ตั้งเป้าหมายที่จะทำรายได้เท่ากับปี 2562 คือทั้งตลาดในและต่างประเทศจะทำให้ดีที่สุดต้องได้ 200,000 ล้านบาทขึ้นไป ภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยง ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงเติบโตค่อนข้างช้าลงมาก ดังนั้นแผนปีหน้าจึงเน้นพุ่งเป้าไปยังกระตุ้นการจัดประชุม สัมมนา อีเวนต์ จัดแสดงสินค้า ผนึกรวมหลายส่วนซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่

1.Food and Security เกี่ยวกับอาหาร มีไฮไลต์งานแสดงสินค้ารายการ THAIFEX ตามมาด้วยงาน Agritec อุตสาหกรรมนวัตกรรมการเกษตร พร้อมกับงานที่ประมูลเข้ามาเพิ่มมากขึ้นทางด้านซัพพลายอีกหลายงาน

2.อุตสาหกรรมซอฟท์ พาวเวอร์ เชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Soft Power เกี่ยวกับการดึงงานกีฬารายการใหญ่ตามนโยบายรัฐบาลตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังคงให้สานต่อไป ล่าสุดทีเส็บจับมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ศึกษาการแข่งขันฟอร์มูล่าร์ วัน F1 มาจัดในไทย ต่อด้วยงานที่สอง การประมูลงาน Inter Pride 2030

3.อุตสาหกรรม Health-Tech Innovation งานเกี่ยวกับนวัตรกรรมสุขภาพองค์รวม เช่น ร่วมมือกับสมาคมและเอกชนในจังหวัดภูเก็ตนำงาน Global Wellness มาไทย เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

4.Advance Manufacturing และ Decarbonization of Energy อุตสาหกรรมสมัยใหม่และการลดโลกเดือดอย่าง งานแสดงสินค้าเด่น ๆ คือ AI หุ่นยนต์อัตโนมัติ รถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) ที่จะนำไปลงในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

TCEB วางกลยุทธ์
TCEB กำหนดแผนกลยุทธ์ปี 2568 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์สร้างความสำเร็จด้วย 5 หมุดหมายหลัก

ทีเส็บจะต้องเดินหน้าเน้นทำการดำเนินงานตามแผนปี 2568 ให้ครบทั้ง 5 หมุดหมาย ได้แก่

  • หมุดหมายที่ 1 การสร้างรายได้เน้นการตลาดมุ่งเป้าตรงไปยัง 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยใช้ไมซ์ ซิตี้ โดยมีงบประมาณเข้าไปสนับสนุนกลุ่มชุมชน และพื้นที่ต่าง ๆ
  • หมุดหมายที่ 2 พัฒนาจุดหมายปลายทางด้วยความหลากหลายของอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ตามนโยบายการบริหารเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ โดยพัฒนาสถานที่จัดงาน จัดกิจกรรมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ สร้างประสบการณ์เฉพาะพื้นที่ที่โดดเด่น
  • หมุดหมายที่ 3 พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยนวัตกรรมและการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของไมซ์ไทยในเวทีโลก โดยเข้าไปปแก้ไขปัญหาอุปรรรค รวมศูนย์บริการ “ซูเปอร์ วัน สต็อป เซอร์วิส” และพัฒนาองค์ความรู้ทางนวัตกรรม
  • หมุดหมายที่ 4 พัฒนาองค์กรให้มีสมรรถนะสูงมีความคล่องตัว เน้นทำระบบและกระบวนการทำงานด้วยดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น กับพัฒนาบุคลากร จากการวิจัยพบจะต้องทำภายในองค์กรและในเครือข่ายอุตสาหกรรมไมซ์ สร้างความทัดเทียมสากล
  • หมุดหมายที่ 5 ใช้ไมซ์ขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทย ด้วยวิธีเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ และชุมชน ยกระดับองค์ความรู้และแนวปฏิบัติ และการจัดงานอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการทำคาร์บอน ฟุตปริ๊นท์ ซึ่งจะทำร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยมีโครงการใหญ่ “MICE Sustainibility Project” ได้รับงบประมาณพิเศษมาใช้ดำเนินการ

ผอ.จิรุตถ์ กล่าวว่า ปี 2568 จะทำการตลาดเชิงรุก อีก 3 โครงการ ได้แก่

  • โครงการที่ 1 เจาะตะวันออกกลาง ทำเป็นการตลาดเชิงเส้นทางเป้าหมาย หรือ Destination Marketing ไม่เฉพาะการนำไมซ์จากตลาดนี้เข้าเมืองไทยเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้ทำ “ถ่ายโอนองค์ความรู้ไมซ์ระหว่างกันหรือ Knowledge transfer” ร่วมกับซาอุดิอาระเบีย โดยมีหอการค้าไทยทำ ไทยแลนด์ เอ็กซิบิชั่น ปี 2568 ทีเส็บจะเดินหน้าไปทำเต็มรูปแบบพร้อมกับ Training for The Trainner เพราะรู้ว่ายังขาดเรื่องบุคลากร วิชาการ การจัดสัมมนา ซึ่งได้ร่วมมือกันส่งคนมาเรียนรู้การทำธุรกิจไมซ์ ส่วนไทยจะเรียนรู้เรื่อง World Halal
  • โครงการที่ 2 จัดมหกรรมพืชสวนโลก ที่อุดรธานี และนครราชสีมา เตรียฝึกอบรมบุคลากรในพื้นที่ การทำงานเป็นเครือข่ายกับพื้นที่ พัฒนาระบบมาตรฐานไมซ์สากล และทำงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตร และฑูตการเกษตรแต่ละประเทศ
  • โครงการที่ 3 ซอฟท์ พาวเวอร์ โดยมี One Event One Soft Power :OEOP ขับเคลื่อนเศษฐกิจเชิงสร้างสรรค์นำเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศตอบสนองนโยบายรัฐบาลซึ่งมีทั้งหมด 12 สาขา โดยมีทีเส็บเป็นแพลตฟอร์มที่จะทำให้เกิดการจัดประชุม อีเวนต์ และการแข่งขันประมูลงาน เพื่อทำให้เกิดการนำงานต่าง ๆ ระดับนานาชาติหรือโลกเข้ามาจัดในเมืองไทย ส่งเสริมงานวัฒนธรรม

สำหรับ “ไมซ์ในประเทศ” ปี 2567 นำเสนอผลิตภัณฑ์ MICE Product โดยมีโครงการแฟล็กชิพนำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาใช้ในการจัดงานไมซ์ โดยร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หอการค้าแต่ละพื้นที่สนับสนุน นำเสนอแฟล็กชิพแต่ละพื้นที่ รวมทั้งทำงานใกล้ชิดกับทุกองค์กร สามารถเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ การสร้างงาน สร้างอาชีพ และเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน

เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :TCEB นำไมซ์ Q3 โกยแสนล้าน/ครึ่งปีหลังลุ้น 3 อีเวนต์โลก