“TCEB” ลั่นพร้อมจัด “Thailand International Air Show” ปี’70 งัด 4 กลยุทธ์ ตั้งเป้า EEC ฮับบินโลกปั๊ม GDP พุ่ง 4.7 พันล้าน/ปี



“TCEB” ขานรับแผนชาติเคลื่อนทัพเตรียมพร้อมจัด “Thailand International Air Show” ปี 2570 ปักธงดันพื้นที่ EEC เป็นศูนย์กลางเอ็กบิชั่นการบินโลก ลุยจัดทุก 2 ปี หวังฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ปูพรมใช้ 4 กลยุทธ์ความร่วมมือ 3Cs-กระตุ้นจัดไมซ์อินเตอร์ทำตลาดเชิงรุกเร่งพัฒนาผู้ประกอบการ” โชว์ผลศึกษาจัดต่อเนื่อง 5 ปีไทยได้ประโยชน์ทั้ง GDP พุ่ง 4,777 ล้านบาท/ปี กระตุ้นการจ้างงาน 18,760 ตำแหน่ง สร้างรายได้ทางภาษีเข้ารัฐ1,788 ล้านบาท/ปี ดึงทั่วโลกร่วมงาน 75,000 คน ปี’65 ทีเส็บชิมลางจัด “Road to Air Show” ในชื่อ “Aviation & LOG-IN Week” รวมงานแสดงสินค้า+ประชุม+งานเมกะอีเว้นต์ มาจัดที่เดียวกันในเวลาใกล้กัน

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร  อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/สสปน.” เปิดเผยว่า หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เป็นหน่วยงานเจ้าภาพ โดยมีทีเส็บและกองทัพเรือเป็นหน่วยงานสนับสนุน เรื่องเตรียมความพร้อมจัดงาน “Thailand International Air Show” ภายใต้ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC -Eastern Economic Coridors)

ความร่วมมือนำร่องจัดงาน “Thailand International Air Show” นั้น ประเทศไทยจะริเริ่มจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่โดยมีทีเส็บทำหน้าที่ศึกษาโมเดลเลือกจัดในพื้นที่หลัก EEC เพื่อวางกรอบความร่วมมือจัดงานแสดงสินค้าด้านการบินระดับโลก ตามไทม์ไลน์ที่ได้วางไว้ดังนี้ คือ

ปี 2565 ประกาศให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานแอร์โชว์ปี 2566

ปี 2568 เปิดตัวอย่างการจัดงานแอร์โชว์อย่างเป็นทางการ

ปี 2570 ลงมือจัดงานแอร์โชว์เต็มรูปแบบ กำหนดจะจัดงานต่อเนื่องทุก 2 ปี

โดยมีวัตถุประสงค์จะใช้อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าระดับนานาชาติเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยกลับมาเติบโตต่อเนื่องอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไวรัสโควิด-19 จึงจะใช้งานแอร์โชว์สร้างผลสัมฤทธิ์ควบคู่กันทั้ง 2 ส่วน ได้แก่ 1.ประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนการยกระดับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา 2.เดินหน้าพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ผ่านงานแสดงสินค้าระดับโลก

นายจิรุตถ์ ย้ำว่าการจัดงาน “Thailand International Air Show” ภายใต้ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC -Eastern Economic Coridors) มุ่งขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์ คือ

กยุทธ์แรก –ความร่วมมือ 3Cs – Cooperation, Connection, Community Based หรือการสร้างความร่วมมือในเชิงการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน การสร้างความเชื่อมโยงประสานให้เกิดความพร้อมของเมืองเป็นเจ้าภาพจัดงาน และสร้างสรรค์จุดหมายปลายทางไมซ์ใหม่ ๆ ในท้องถิ่นตอบโจทย์นักเดินทางไมซ์

กลยุทธ์ที่ 2- กระตุ้นให้เกิดการจัดงาน โดยอาศัยความพิเศษโดดเด่นทางกายภาพของภาคตะวันออกที่มีลักษณะภูมิประเทศ สามารถสร้างงานจากอัตลักษณ์ของเมือง หรือจัดงานตามอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อสร้างจุดขายเชิงโอกาสทางธุรกิจและการจัดงานให้กับพื้นที่

กลยุทธ์ที่ 3 –การทำการตลาด มุ่งเน้นสร้างการรับรู้ว่าพื้นที่และผู้ประกอบการในพื้นที่มีความพร้อม สามารถเป็นเจ้าภาพที่ดี มีมาตรฐานของสถานที่จัดงานรองรับ ทั้งห้องประชุม ศูนย์ประชุม และสถานที่พิเศษสำหรับการจัดงาน  

กลยุทธ์ที่ 4-การพัฒนา รุกพัฒนาผู้ประกอบการ สถานประกอบการ และห่วงโซ่อุปทานในพื้นที่ให้มีมาตรฐาน และมีศักยภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บได้ทำผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดงาน “Thailand International Air Show” แล้วประเมินจากการจัดงานแอร์โชว์ทุก  2 ปี ต่อเนื่อง 5 ครั้ง จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาภาพรวมของประเทศไทยด้านต่าง  ดังนี้

1.ผลักดันการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ได้ถึง 4,777 ล้านบาท

2.กระตุ้นการจ้างงาน 18,760 ตำแหน่ง

3.สร้างรายได้ทางภาษีให้ภาครัฐได้ 1,788 ล้านบาท

4.คาดการณ์ผู้ร่วมงาน 75,000 คน

5.สร้างประโยชน์มูลค่ามหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าและอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย ทั้งด้านสังคมเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายประเทศไทย 4.0  และแผนพัฒนาของ สกพอ.

จากนี้เป็นต้นไปทีเส็บ วางแผนเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ” รองรับการจัดงาน “Thailand International Air Show” และเพื่อร่วมยกระดับอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ของไทย ด้วยการจะทำโครงการ “Road to Air Show” ริเริ่มจัดงานสัปดาห์งานแสดงสินค้าและงานในอุตสาหกรรมไมซ์ ภายใต้ชื่อ“Aviation & LOG-IN Week” โดยรวมงานแสดงสินค้า การประชุม และงานเมกะอีเว้นต์ มาจัดในพี้นที่เดียวกัน ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน

เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย 4 เรื่อง คือ 1.ต่อยอดโอกาสดึงผู้เข้าร่วมงานมาในช่วงเวลาเดียวแล้วได้ธุรกิจครบ 2.ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในงานที่เกี่ยวข้อง 3.เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้น ๆ 4.ช่วยกระตุ้นผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีมติให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมจัดงาน“Thailand International Air Show” เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทีเส็บได้รับมอบหมายให้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และขับเคลื่อนให้เป็นเครื่องมือส่งเสริมการค้าการลงทุนของอุตสาหกรรมการบินในพื้นที่ EEC และจะรับผิดชอบการประชาสัมพันธ์และการตลาดของงานทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และร่วมเป็นคณะทำงานในการจัดหาผู้จัดงานและดึงผู้ร่วมแสดงสินค้าเข้าร่วมงานดังกล่าว

ขณะที่ปี 2565 มีงานแสดงสินค้านานาชาติยืนยันเลือกใช้พื้นที่ EEC จัดงานนำร่อง ภายใต้การสนับสนุนของทีเส็บ 2 งานใหญ่ ได้แก่ 1.งาน “Maintenance, Industrial Robotics and Automation” (MIRA) ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคมน 2.งาน “Manufacturing Transformation Thailand” (MATRA) ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายน 2565

ส่วนปีต่อ ๆ ไป ทีเส็บมีแผนดึงงานแสดงสินค้านานาชาติอื่น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรม 12 S-Curve ซึ่งจัดต่อเนื่องทั้งงานใหม่และงานที่เลือกจัดแสดงในพื้นที่ EEC เพื่อร่วมสนับสนุนนโยบาย สกพอ. พัฒนาภาคอุตสาหกรรมและช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน  บล็อกเกอร์ #gurutourza