![“เสริมศักดิ์” นำ ททท. เร่งครึ่งปีหลัง67 หาเงินเพิ่ม 2.4 ล้านล้าน ททท. ท่องเที่ยว รายได้](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2024/06/71E3A006-66AD-47E3-9A66-7B4A088DC9EE-696x391.jpeg)
“ เสริมศักดิ์ ” มอบนโยบายเที่ยวไทยปลอดภัยทุกซีซัน เร่งครึ่งปีหลังมิ.ย.-ธ.ค.67 ต้องหารายได้เพิ่ม 2.4 ล้านล้านบาท สานฝัน IGNITE Thailand 5 กลยุทธ์นำไทยสู่ทัวริสซึ่มฮับ “ปลัดอารัญ” ย้ำปี’67 ทำได้ 3 กลยุทธ์ รองบปี68/69 ทำต่ออีก 2 กลยุทธ์ด้าน “ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์” เปิดแผนกระตุ้นตลาดทั่วโลก ทั่วไทย จัดอีเวนต์ใหญ่ เติมเงินทุกเดือน
นาย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมพร้อมมอบนโยบาย “ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุก Season” ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาคีย์ ควีนส์ ปาร์ค
![ททท. ท่องเที่ยว](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2024/06/IMG_9012-1100x939.jpeg)
โดยมีนายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
นำเสนอแผนขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ปลุกพลังการท่องเที่ยวไทยกระตุ้นตลาดช่วงครึ่งหลังปี 2567 เน้นการดูแลรักษาความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว นำไทยก้าวสู่ประเทศศูนย์กลางการท่องเที่ยวภูมิภาคหรือ Tourism Hub
สภาพปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยมีสัญญาณที่ดีขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยแล้วกว่า 15 ล้านคน สร้างรายได้รวมจากคนไทยและต่างชาติรวมแล้วกว่า 1.1 ล้านล้านบาท
![ททท. ท่องเที่ยว](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2024/06/IMG_9014-1100x611.jpeg)
ยังมีโจทย์ใหญ่ ดึงรายได้เพิ่มอีก 2.4 ล้านล้านบาท ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 3.5 ล้านล้านบาท และกระตุ้นต่างชาติทั่วโลกเที่ยวไทยอีก 21.7 ล้านคน จากที่ตั้งไว้รวม 36.7 ล้านคน
ช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2567 กำลังเข้าสู่โลว์ซีซันนักท่องเที่ยวจะลดลง จึงต้องทำเร่งด่วนปลุกตลาดต่างประเทศ 5 มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ 1 มอบสิทธิพิเศษและส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกสร้างบรรยากาศในประเทศให้น่าเที่ยว มาตรการที่ 2 สนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งทุน
มาตรการที่ 3 ส่งเสริมการอบรมสัมมนาข้ามจังหวัดและภูมิภาค มาตรการที่ 4 สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเสริมอัตรากำลังตำรวจท่องเที่ยวและสร้างความร่วมมือกับชุมชนดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
![ททท. ท่องเที่ยว](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2024/06/IMG_9013-1100x539.jpeg)
นาย เสริมศักดิ์ กล่าวว่า พร้อมจะผลักดันการท่องเที่ยวไทยเติบโตต่อเนื่องและเข้มแข็งมากขึ้นภายใต้นโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism หลัก ๆ จะต้องทำ 1.เดินหน้าตามนโยบายเร่งด่วนเพิ่มศักยภาพเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด 2.ทำให้ “เที่ยวได้ทั้งปี เที่ยวได้ทุกซีซัน/ฤดู” 3.ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล หรือ Tourism for All
4.จัดงานเทศกาลและท่องเที่ยวเชิงกีฬาหรือ Festival & Sports Tourism ความปลอดภัยในการท่องเที่ยว การบุกตลาดเชิงรุก 5.เจาะกลุ่มตลาดดาวรุ่งใหม่ ๆ ควบคู่กับเปิดจุดขายเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลักสู่ 55 เมืองน่าเที่ยว เน้นบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น
นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงฯ พร้อมประสานทุกภาคีภาครัฐ และเอกชน เพื่อยกระดับศักยภาพสู่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวโลกโดยมีแผนปฏิบัติการ IGNITE Thailand’s Tourism ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ ปี 2567 เน้น 3 กลยุทธ์ ได้แก่
3 กลยุทธ์
- กลยุทธ์ที่ 1 สร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าว ด้วยการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง ประชาสัมพันธ์ข้อมูล สร้างภาพลักษณ์และสร้างประสบการณ์ที่ดี ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย
- กลยุทธ์ที่ 2 ผลักดัน 5 Must Do in Thailand ส่งเสริม 5 สิ่งที่จะต้องทำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และพัฒนาสินค้ากับบริการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน
- กลยุทธ์ที่ 3 ส่งเสริมเส้นทางเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว พัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว โดยบูรณาการหน่วยงานในจังหวัดเดินหน้าทำท่องเที่ยวเชิง พัฒนากิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวให้มีเรื่องราวเป็นจุดขายสำคัญ พร้อมกับยกระดับมาตรฐานที่พัก ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยว ปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
จากนั้นปีปีงบประมาณ 2568/2569 จะเน้นนโยบายนำไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งอาเซียน (Hub of ASEAN) ด้วยวิธีสนับสนุนให้เชื่อมโยงเส้นทางอาเซียนเป็นจุดหมายปลายท่องเที่ยวหนึ่งเดียวกัน (Single Destination)
และยกระดับความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมสร้างศูนย์กลางการจัดงานอีเวนต์โลก (World Class Event Hub) พัฒนางนเทศกาลประเพณีท้องถิ่นไทยสู่สากลทำให้เป็นอีเวนต์ระดับโลก เตรียมพร้อมและเพิ่มศักยภาพเมืองต่าง ๆ รองรับการจัดอีเวนต์นานาชาติ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า พร้อมรับนโยบายของรัฐบาลกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไตรมาส 3-4 ปี 2567 แบ่งเป็น “ตลาดในประเทศ” จะสร้างกระแสเดินทางท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค เปิดตัวเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด ตามคอนเซปต์เสน่ห์ไทยและ 5 Must Do in Thailand ผ่านแคมเปญการสื่อสาร “สุขทันทีที่เที่ยวไทย” ส่วน “ตลาดต่างประเทศ” สื่อสารด้วยคอนเซปต์ Amazing Thailand, Your Stories Never End แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- ส่วนที่ 1 ตลาดระยะไกลข้ามทวีป เน้นเพิ่มเที่ยวบินตรงแบบประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำกระตุ้นการเดินทางจำนวนมากนอกฤดูและวันหยุดฤดูหนาว เพิ่มการใช้จ่ายเงิน ด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวสร้างประสบการณ์ใหม่ ขยายวันพัก อำนวยความสะดวกเดินทางและทำธุรกิจ
- ส่วนที่ 2 ตลาดระยะใกล้ แถบเอเชีย แปซิฟิก อาเซียน เน้นส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว ร่วมมือกับสายการบินเพิ่ม 4 อย่าง 1.เที่ยวบินและเส้นทางบิน 2.ความถี่การเดินทาง 3.เพิ่มการใช้จ่าย 4.ปรับภาพลักษณ์ประเทศไทย ขยายฐานกลุ่มเจเนเรชั่นคนรุ่นใหม่และท่องเที่ยวเดินทางมาไทยครั้งแรก
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ครึ่งปีหลัง 2567 ททท.เตรียมจัดกิจกรรมเทศกาลต่าง ๆ ทุกเดือน เช่น อะเมซิ่ง ฟู้ด เฟสติวัล2024 ศรัทธา วิจิตร/VIJIT 5 ภาค อะเมซิ่ง มวยไทย เอ็กซ์พีเรียนซ์ อะเมซิ่ง บีช ไลฟ์ เฟสติวัล และอะเมซิ่ง มิวสิค เฟสติวัล สนับสนุนการจัดกิจกรรม งานเทศกาลและประเพณีต่าง ๆ ทั่วเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว สร้างสีสันและบรรยากาศการท่องเที่ยว
โดยนำมาตรการรัฐบาลมาเป็นพลังสนับสนุน ได้แก่ 1.ขยายการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง 2.สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว 3.อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเรื่องการเดินทางทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ 4.ยกระดับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และความปลอดภัย
พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ทางหน่วยงานรับนโยบายของรัฐบาลเร่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทุกมิติ โดยประสานความร่วมมือกับทุกภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
เดินหน้าทำ 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 หลักการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ผ่านการเพิ่มมาตรการเชิงรุกการตรวจตรา ป้องกันการหลอกหลวงในแหล่งท่องเที่ยว ผ่านศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว (Command and Control Operation Center : CCOC) และศูนย์ Call Center บริการสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155
เรื่องที่ 2 การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อเร่งปราบปรามการเอารัดเอาเปรียบและฝ่าฝืน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว และเพิ่มการตรวจสอบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทั้งทางบกและทางน้ำ
เรื่องที่ 3 นำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับศูนย์รับแจ้งเหตุอื่น ๆ ครบวงจร ใช้เทคโนโลยี AI Face Recognition ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เริ่มนำร่องทำแล้ว 6 พื้นที่ ได้แก่ ถนนข้าวสาร กทม. ถนนคนเดินพัทยา จ.ชลบุรี ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ย่านประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ถนนคนเดินบางลา จ.ภูเก็ต ตลาดโต้รุ่งหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ททท. ภาคใต้ Q1/67 โกย 3.87 หมื่นล้าน ครึ่งปีหลังลุย 3 โปรเจกต์