ททท. ลั่นปี 68 ลุย 5 โจทย์โกย 3.4 ล้านล้าน-สภาทัวร์ชี้เป้า 5 เรื่อง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมแถลงวันจันทร์ที่ 15 ก.ค.2567 แผนการตลาดปี 2568 :TATAP2025 ประกาศทำ 5 โจทย์ใหญ่ นำรายได้เข้าประเทศปี 2568 ให้ได้ 3.05 -3.4 ล้านล้านบาท


ผู้ว่าฯ ททท. ลั่นพร้อมแถลงให้โลกรู้แผนตลาดปี’68 เมืองไทยใส่เกียร์ลุย 5 โจทย์ใหญ่โกยเงินสูงสุด 3.4 ล้านล้านบาท ด้านประธานสภาฯท่องเที่ยวชี้เป้า “รัฐบาล” เร่งอัดฉีดเพิ่ม 5 เรื่อง ร่วมด้วยช่วยรายได้ท่องเที่ยวเข้าเป้าปี’67-68 ส่วน “เที่ยวในประเทศ” ปีหน้ายึดแผนยุทธศาสตร์ชาติบวก IGNITE Thailand ขาย 5 กลยุทธ์ 55 เมืองน่าเที่ยว

ททท.
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการจัดประชุมเชิงบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2568 -Tourism Authority of Thailand Action Plan 2025 : TATAP 2025” มาถึงวันสุดท้ายศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 โดยได้แลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันภายในครบทุกทั้งฝ่ายกับทีมรองผู้ว่าการทั้ง 8 ด้าน ผู้บริหารทุกระดับจากตลาดในประเทศ 45 สำนักงาน ต่างประเทศทั่วโลก 29 สำนักงาน ถกกันละเอียดทุกแง่มุม

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567 เตรียมแถลงให้โลกรู้ถึงแผนตลาดการท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเริ่มใช้จริง 1 ตุลาคม 2567-30 กันยายน 2568 พร้อมเดินหน้าฝ่าความท้าทาย 5 โจทย์ใหญ่ ประกอบด้วย

  • โจทย์ที่ 1 ตั้งเป้าหมายทำรายได้การท่องเที่ยวรวมเข้าประเทศให้ได้สูงสุด 3.05 – 3.4 ล้านล้านบาท เพิ่มการเติบโต 7.5-10 % จากปี 2567
  • โจทย์ที่ 2 นำเข้านักท่องเที่ยวทั่วโลกมาใช้จ่ายเงินในไทย 40 ล้านคน กระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศ 220 ล้านคน-ครั้ง
  • โจทย์ที่ 3 นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยติดอันดับ 1 ใน 14 ของโลก
  • โจทย์ที่ 4 ขานรับนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก หรือ Tourism Hub และนำการท่องเที่ยวเป็นเวิลด์คลาสโลก หรือ Worldclass Tourism
  • โจทย์ที่ 5 ตอบสนองวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand ขับเคลื่อน 5 กลยุทธ์ คือ 1.สร้างประสบการณ์ที่ดีลย่างก้าว 2.ชู 5 Must Do in Thailand 3.ยกระดับเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว 4.สานฝันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน : Hub of ASEAN และ 5.ปั้นไทยสู่ศูนย์กลางจัดงานอีเวนต์โลก : Worldclass Event Hub

โดยจะขีดเส้นใต้เดินหน้าเต็มที่ในการขาย “5 Must Do in Thailand” นักท่องเที่ยวทุกคนที่เที่ยวเมืองไทยต้องได้สัมผัสประสบการณ์หรือลงมือทำ 1 ใน 5 อย่าง ได้แก่ 1.Must Eat :กินอาหารไทย 2.Must Beat ดูหรือฝึกกีฬามวยไทย 3.Must See ตื่นตากับโชว์ไทย 4.Must Buy ซื้อสินค้าพื้นเมืองไทย โดยเฉพาะผ้าไทย 5.Must Seek มีความสุขกับวัฒนธรรมไทย

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ในฐานะผู้ดูแลสมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอกชน ยินดีสนับสนุนแผนตลาดใหม่ของททท.ปี 2568 ทำให้ได้ตามเป้าหมาย 3.4 ล้านล้านบาท เพียงแต่จะต้องเพิ่มกลยุทธ์ใหม่ใส่เข้าไปตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2567 เริ่มกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

เพราะแนวโน้มรายได้รวมตลอดปี 2567 หากไม่ทำโครงการใหม่เพิ่มเติมอาจจะต่ำกว่าเป้าได้ ดังนั้นจึงได้แนะนำให้รัฐบาลสนับสนุนเร่งด่วน 5 เรื่องคือ

กระตุ้นท่องเที่ยว
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แนะรัฐบาลอัดฉีดเพิ่มใหม่ 5 เรื่อง เพื่อความสำเร็จทางรายได้ปี 2567-2568
  • เรื่องที่ 1 จัดตั้งไทยแลนด์ทีม จับคู่ ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง กับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวที่เชี่ยวชาญตลาดไปเคาะประตูขายในพื้นที่ตลาดเป้าหมาย
  • เรื่องที่ 2 เสนอให้ใช้ท่าอากาศยานหลักจับมือกับผู้ประกอบการรถบัสแล้วใช้บริษัทท่องเที่ยวในประเทศเปิดศูนย์การขายในสนามบินเพื่อกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติไปสู่ภูมิภาค 55 เมืองน่าเที่ยว
  • เรื่องที่ 3 รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณกลางเพื่อการท่องเที่ยวเข้ามาทำโครงการ “รถบัสเที่ยวทั่วไทย” ตลอดไตรมาส 3-4 ปี 2567 จัดรถนำเที่ยวทั่วไทยได้ประมาณ 15,000-20,000 คัน ซึ่งสามารถกระจายรายได้สู่จังหวัดเมืองน่าเที่ยวได้จริง
  • เรื่องที่ 4 เพิ่มรายได้จากคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป พุ่งเป้าเจาะตรงกลุ่มตลาดแถบประเทศอาหรับ โดยเพิ่มการฝึกทักษะมัคคุเทศก์ภาษาอาหรับ ฝึกผู้อำนวยความสะดวก (falicitrator) เข้ามาแนะนำนักท่องเที่ยวให้ไปใช้บริการดูแลรักษาสุขภาพทั้ง เมดิคัล เวลเนส ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในไทย
  • เรื่องที่ 5 แบ่งการแจกเงินดิจิทัล วอลเลท สักประมาณ 20 % ของจีดีพีท่องเที่ยวมาสนับสนุนการท่องเที่ยว
แผนการท่องเที่ยวปี 2568
นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าในการประชุมแผนตลาดปี 2568 ตลาดในประเทศที่จะกระตุ้นคนเที่ยวในประเทศยังคงยึดโยงเข้าด้วยกัน 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แผนการท่องเที่ยวแห่งชาติ 6 ยุทธศาสตร์ นำการท่องเที่ยว พลิกโฉมประเทศไทย สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน ส่วนที่ 2 แผนของ ททท.ตามนโยบายรัฐบาลประกาศวิสัยทัศน์ทำ IGNITE Thailand ซึ่งมีหลายอุตสาหกรรมผนวกรวมอยู่ด้วยโดยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องเดินหน้าทำอย่างเข้มแข็ง โดยจะต้องใส่คอนเทนท์สร้างจุดขายแรงจูงใจให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวด้วย 5 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

  • กลยุทธ์ที่ 1 ประสบการณ์ที่ดีทุกย่างก้าว รัฐบาลเน้นสินค้าท่องเที่ยว ส่วน ททท.ต้องเสริมด้วยการตลาด ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวหรือ Story telling เติมเต็มเข้าไป
  • กลยุทธ์ที่ 2 Must Do in Thailand ก็จะมี อาหารไทย วัฒนธรรมไทย โชว์ไทย ผ้าไทย กีฬาไทย ซึ่งเป็นสินค้าท่องเที่ยวอยู่แล้วก็ต้องนำมาผูกกับเส้นทางการท่องเที่ยว
  • กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับเมืองหลักและ 55 เมืองน่าเที่ยว ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค ต้องนำเนื้อหาของแต่ละพื้นที่มาผูกให้เห็นเสน่ห์เชิงสร้างสรรแล้วใช้วิธีเล่าเรื่องเชื่อมเมืองหลักสู่เมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว กระจายนักท่องเที่ยวและรายได้ถึงมือท้องถิ่นมากขึ้นกว่าปัจจุบัน
  • กลยุทธ์ที่ 4 Hub of ASEAN ตอนนี้รัฐบาลประกาศนโยบายยกเลิกกรอกใบผ่านแดน ตม.6 กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกัน หรือการเชื่อมระบบรางของรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ หนองคาย-เวียงจันทน์(สสป.ลาว) เตรียมจัดรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษด้วย ปี 2568 การท่องเที่ยวในประเทศจะมีตลาดต่างประเทศเข้ามาเพิ่มด้วย ในภาคอีสานอยู่ระหว่างการปลดล็อกใบผ่านแดนการเดินทางจากจีนซึ่งเป็นประเทศที่ 3 ผ่าน สสป.ลาว ยังไม่ได้อนุญาต เพื่อจะมายังไทย
  • กลยุทธ์ที่ 5 World Class Events รัฐบาลกำลังพยายามนำงานระดับโลกเลือกมาจัดในเมืองไทย
55 เมืองท่องเที่ยว
ททท.ในประเทศ เดินหน้ากระตุ้นนักท่องเที่ยว 220 ล้านคน-ครั้ง ยึดโยงแผนท่องเที่ยวชาติ IGNITE Thailand ขาย 5 กลยุทธ์ เพิ่มการกระจายรายได้ 55 เมืองน่าเที่ยว

นางสาวสมฤดีกล่าวว่า ไฮไลต์สำคัญของแผนตลาดปี 2568 จะต้องตอบโจทย์การ “พัฒนารายได้เชื่อมโยง” ไปยัง 55 เมืองน่าเที่ยว ซึ่งตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ “สภาพัฒน์” ได้กำหนดไว้ในแผนจะ “ยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก” ทั้งหมดจะต้องทำให้เป็นผลสำเร็จภายในปี 2580 ระหว่างนี้ททท.และหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องนำเครื่องมือต่าง ๆ เข้าไปช่วยผลักดันการท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่พร้อมจะเป็นเมืองหลักต้องมีผู้เยี่ยมเยือนเข้าไปใช้บริการจังหวัดละ 4 ล้านคนขึ้นไป/ปี

โดยเฉพาะยุคนี้ “คนนิยมขับรถท่องเที่ยว” โดยมีรถระบบไฟฟ้า (EV) มาแล้ว คนก็แสวงหาแหล่งท่องเที่ยว แต่ปัญหาที่จะต้องแก้ไขเพื่อรองรับการท่องเที่ยวด้วยรถอีวี คือ 1.โรงแรมตามเมืองน่าเที่ยวจะต้องเร่งเพิ่มจุดชาร์จไฟฟ้าอีวี  บริการซ่อมรถ ทางกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ควรจะหารือกับสถาบันการศึกษาผลิตช่างไว้บริการ 2.การรณรงค์ให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อประโยชน์โดยรวมของทั้งประเทศ

เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ก.ท่องเที่ยวลุ้นเดือน 7 MV ลิซ่า ดันจีนเที่ยวไทยโต 2 หลัก