ททท. ทุ่มผลิตไกด์บุ๊คไทย อังกฤษ รุกขาย “เสน่ห์ไทย-ซอฟท์ พาวเวอร์” 5 ภูมิภาค 50 ผู้ประกอบการ ปั้นสินค้าท่องเที่ยวศิลปะ แฟชั่น งานคราฟต์ เข้าตลาดท่องเที่ยวโลก
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุด ททท.ทำโครงการไกด์บุ๊คนำเสนอเสน่ห์ไทย หรือ Soft Power สู่ระดับสากลโดยได้รวบรวมสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ 5 ภูมิภาค 50 ราย รังสรรค์สินค้าท่องเที่ยวเชิงศิลปะ แฟชั่นและงานคราฟต์ มาส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ปรับภาพจำใหม่ต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ทำให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยวิธีบอกเล่าเรื่องราวเสน่ห์ไทยในแต่ละพื้นที่ผ่านการบอกเล่าหรือ Story Telling ซึ่งมีเอกลักษณ์เชิงคุณค่าแตกต่างกัน แล้วส่งผลดีกับผู้ประกอบการและชุมชนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะงานศิลปะซึ่งเป็นเสน่ห์ไทยชัดเจน ซึ่งได้รวมมาไว้ในไกด์บุ๊คฉบับใหม่ล่าสุด มีให้เลือกจากเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว กับผลงานศิลปะและแฟชั่นร่วมสมัยสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน
อีกทั้งยังสื่อสารสร้างการรับรู้เป็นวงกว้างด้วยรูปแบบ E-Book และคลิปวิดีโอ เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อประชาสัมพันธ์อื่น ๆ ททท.จึงจัดทำขึ้นเป็นเสมือนคู่มือนำเที่ยวสำคัญกระตุ้นให้คนออกเดินทางตามรอยเสน่ห์ไทยในแต่ละภูมิภาคต่อเนื่องตลอดทั้งปีครบ 365 วัน ควบคู่กับสร้างภาพจำใหม่การท่องเที่ยวไทยครบเครื่อง ทรงคุณค่า ทำให้ธุรกิจ และคนในชุมชน มีกิน มีใช้ มีรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
โครงการไกด์บุ๊ค เสน่ห์ไทย-ซอฟท์ พาเวอร์ โครงการแรกที่ ททท.ทำครั้งนี้เน้นคัดเลือกสินค้าและบริการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เแฟชั่น และสินค้างานคราฟต์ จากชุมชนและผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่ใช้กระบวนการผลิตโดยคำนึงถึงการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) มารวบรวมไว้มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อัดแน่นด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ 1 ข้อมูลสินค้าท่องเที่ยวท่องเที่ยว ส่วนที่ 2 เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ส่วนที่ 3 ข้อมูลประกอบอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) โครงการยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน STAR
วางกลยุทธ์เสนอขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดหรือการท่องเที่ยวในพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ และเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงสินค้าและบริการท่องเที่ยวใน E-Book โดยมีผู้ประกอบการ 50 ราย ดังต่อไปนี้
- “ภาคเหนือ” 15 ราย ได้แก่ ในลำปากง 3 ราย คือ EARTH & FIRE, GHOMLANNA , ฟ้าไทย ผ้าไทย เชียงใหม่ 6 ราย คือ OUKE , De Quarr, This is A Chair, VASSAN, HUH.WDUS, Bamboo Family Market , Charm Learn Studio และจังหวัดอื่น ๆ อีก 6 ราย AMPHAN ตาก KaHemp เพชรบูรณ์ DoiSterแม่ฮ่องสอน Kanz by Thaitor แพร่ อาเลแล น่าน และ สุนทรีสุโขทัย
- “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” 11 ราย ได้แก่ ขอนแก่น 3 ราย คือ Columbo Craft Village, BWILD ISAN, JUTATIP ขอนแก่นจังหวัดเลย 2 ราย คือ Folkcharm และ Made By Hotcake สกลนคร 2 ราย คือ Mann Craft และ ภูคราม ส่วนที่เหลือจังหวัดละ 1 ราย ได้แก่ OTTO Farm Studio นครราชสีมา, NAGA KIE บึงกาฬ Tohsang Cotton Village อุบลราชธานี และTHORR’s อำนาจเจริญ
- “ภาคใต้” 8 ราย ได้แก่ นครศรีธรรมราช 3 ราย คือ บน-บาน , TIMA และBoonyarat Thaicraft ปัตตานี 2 ราย คือ เบญจเมธา เซรามิก บ้านเดินดิน และ ยาริงบาติก สงขลา 2 ราย คือ คลอเทียร์ ปาเต๊ะ และ NERA สงขลาเบญจเมธา พัทลุง 1 ราย คือ Varni Southern Wickery
- “ภาคตะวันออก” มีเพียง 2 ราย ได้แก่ TAN BATIK ระยองและ KORKOK จันทบุรี
- “ภาคกลาง” ได้แก่ 14 ราย ได้แก่ ในกรุงเทพฯ 5 ราย คือ ทักทาย, 103 PAPER Shop, PIPATCHARA, Wisdomative และ Thai Craft Studio พระนครศรีอยุธยา 2 ราย คือ Marionsiam, พีรยา ปลาตะเพียน ส่วนที่เหลือจังหวัดละ 1 ราย ได้แก่ MAKA นนทบุรี CHOM hand craft ชัยนาท Mud more value สระบุรี, PLERN DU CRAFT นครนายก NGAM CRAFT สุพรรณบุรี และ KORAKOT เพชรบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ททท.-สภาทัวร์-AOT ระดม 300 แห่ง จัด WOW! Thailand ปั๊มทัวร์โลก