จีนกับอนาคตไต้หวัน หลัง ไล่ ชิงเต๋อ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ออกแถลงการณ์หลังจากยืนยันผลการเลือกตั้งว่า “ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน”
- ไล่ ชิงเต๋อ ระบุไต้หวันจะยังคงเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ถูกต้อง
- เราจะไม่หันหลังกลับหรือมองย้อนหลัง
ผู้ลงคะแนนเสียงชาวไต้หวันเลือกนายวิลเลียม ไล่ หรือนายไล่ ชิงเต๋อ จากพรรค DPP (Democratic Progressive Party) เป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ยิ่งสร้างรอยร้าวระหว่างจีนมากขึ้น
ผลการเลือกตั้งดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับจีน โดยออกแถลงการณ์หลังจากยืนยันผลการเลือกตั้งว่า “ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน”
พรรค DPP (Democratic Progressive Party) ชนะการเลือกเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันได้รับคะแนนเสียง 40% นายไล่ ได้แสดงจุดยืนในการแถลงครั้งแรกกับสื่อทั่วโลกว่า “ไต้หวันจะยังคงเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ถูกต้องเราจะไม่หันหลังกลับหรือมองย้อนหลัง”
ในเวลาต่อมาเขาได้กล่าวกับผู้สนับสนุนนับหมื่นคน บนถนนในกรุงไทเปว่า ชัยชนะของเขาเป็นชัยชนะของระบอบประชาธิปไตย
“พวกเราทำได้แล้ว เราไม่ยอมให้อิทธิพลจากภายนอกมามีผลกับการเลือกตั้งของเรา นั่นเพราะเราตัดสินใจแล้วว่ามีเพียงเราเท่านั้นที่เลือกประธานาธิบดีของเรา” ก่อนการเลือกตั้งไต้หวันเคยกล่าวหาจีนว่าพยายามแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้ง
นายไล่ส่งข้อความถึงจีนด้วยว่า เขามีความยินดีที่จะเจรจาเกี่ยวกับทางตันและความขัดแย้งต่างๆ พร้อมเรียกร้องสันติภาพและความมั่นคงกับปักกิ่ง เขากล่าวเสริมว่า เขาจะยังคงรักษาสถานะของช่องแคบไต้หวันไว้อย่างเดิม โดยจะไม่แสวงหาเอกราชหรือรวมกับจีนและให้คำมั่นว่าจะปกป้องไต้หวันจากการคุกคามของจีน
จากคำพูดของเขาในอดีตที่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน จีนตราหน้านายไล่ว่าเป็น “ผู้แบ่งแยกดินแดน” และ “ผู้สร้างปัญหา”
เมื่อวานจากแถลงของสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งรัฐจีนยืนยันว่า การเลือกตั้งของไต้หวันไม่สามารถหยุดยั้งกระแสการรวมชาติได้และ DPP ไม่ได้เป็นตัวแทนความคิดเห็นทั้งหมดของไต้หวัน
ผู้สมัครพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋ง (KMT) ได้รับคะแนนเสียง 33.49% และผู้สมัครจากพรรคTaiwan People’s Party (TPP) ได้รับคะแนนเสียง 26.45% มีผู้มาลงคะแนนมากกว่า 14 ล้านคน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้มากกว่า 71%
สหรัฐฯซึ่งเป็นพันธมิตรของไต้หวันได้แสดงความยินดีกับชัยชนะของนายไล่ รวมทั้งญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป(อียู) โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลินเกน กล่าวชื่นชมระบบประชาธิปไตยและกระบวนการเลือกตั้งที่เข้มแข็งของไต้หวัน
รัฐมนตรีบลิงเกนกล่าวว่า สหรัฐมุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน และก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า สหรัฐฯไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน
ด้านนอกของสำนักงานใหญ่ของพรรค DPP ที่ไทเปเมื่อวาน ผู้สนับสนุนต่างเฉลิมฉลองกับชัยชนะ