

- “SWD”ผู้นำธุรกิจค้าพลอยเนื้อแข็งแถวหน้าของไทยวอนรัฐทำ“Carat Tax”ภาษีเหมาจ่ายสนับสนุนเอกชนจัดการภาษีนำเข้าพลอยก้อน
- ร่วมรักษา“ไทยฮับส่งออกพลอยโลก”โชว์รายได้หลังโควิดไทยเปิดประเทศตลาดโตแรงกว่า30%ลูกค้าหลักเอเชียญี่ปุ่นแรงต่อเนื่อง
- เตรียมโกยเงินร่วมขายงานใหญ่ในไทย “Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2023 :JGAB 2023” วันที่26-29 เม.ย.นี้ที่ศูนย์สิริกิติ์
นางสาวสุมิตรา ทศศิลาพร กรรมการบริหาร บริษัท เอสดับบลิวดี (SWD) อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทคนไทยผู้นำธุรกิจพลอยเนื้อแข็งกว่า 40 ปี ประเมินภาพรวมปี 2566 สถานการณ์ส่งออกพลอยของไทยยังคงเป็นผู้นำที่ตลาดแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อสร้างจุดแข็งให้โดดเด่นหนือคู่แข่งในตลาดสากลขณะนี้เอกชนต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนเรื่อง “การตกลงค่าภาษีแบบเหมาหรือ Carat Tax” เพื่อเป็นใบเบิกทางทำให้ “การจัดการภาษีวัตถุดิบพลอยก้อน” ทำได้ง่ายขึ้น และสามารถสร้างยอดส่งออกเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรักษาสถานะให้ไทยความเป็นศูนย์กลาง (HUB) พลอยเนื้อแข็งของตลาดโลกในระยะยาว
รวมทั้งจะสามารถรองรับการส่งออกธุรกิจอัญมณีไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทำรายได้ส่งออกติดอันดับ 3 ของประเทศ สถิติเฉพาะตลาดพลอยปี 2565 ขยายตัวสูงกว่าปี 2564 ถึง 69.15% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,181 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบปริมาณการส่งออกแล้วในเอเชียไทยอยู่อันดับต้น ๆ ด้วยจุดแข็งด้านการสร้างสรรค์งานคุณภาพสูง และหากเทียบกับคู่แข่งอย่างศรีลังกา ไทยยังคงเสียเปรียบเพราะไม่มีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตัวเอง และถ้าคู่แข่งพัฒนาฝีมือการเจียระไนได้ใกล้เคียงกับไทย ก็ยิ่งส่งผลต่อการแข่งขันยากขึ้นแถมเสี่ยงจะเสียส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น จึงต้องช่วยกันป้องกันจุดอ่อนดังกล่าว

นางสาวสุมิตรา กล่าวว่าทางผู้บริหาร SWD รุ่นบุกเบิกได้วางพื้นฐานธุรกิจไว้แข็งแรงมาก แต่สถานการณ์ทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงจากปัจจัยหลายด้าน จึงทำให้บริษัทต้องเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับยุคสมัย โดยเฉพาะ ‘หน้าร้าน’ ได้ลดความสำคัญการตั้งโชว์สินค้าลง แล้วหันไปเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานนำเทคโนโลยีเข้ามาแทน ผนวกใช้แพลตฟอร์มการจัดการระบบ เพื่อตอบโจทย์การติดต่อนัดหมายลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานช่วงสถานการณ์โรคระบาดหลังไทยเปิดประเทศสร้างรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นแล้วถึง 30 %
โดยโครงสร้างทาง SWD มีส่วนแบ่งตลาดเป็นคู่ค้าในประเทศ 30% ต่างประเทศ 70% ลูกค้าหลัก ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 เอเชีย ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ กลุ่มที่ 2 ยุโรป ได้แก่ อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศสเยอรมนี ซึ่งทางบริษัทได้นำจุดแข็งของตนเองมาใช้ส่งออก วางกลยุทธ์จัดกลุ่มสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้ซื้อแต่ละพื้นที่ เช่นแถบเอเชียนิยมพลอยแดง หรือแถบยุโรปเน้นใช้งานแฟชั่น และนิยม Fancy Sapphire นอจากการรักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังพัฒนาใช้แพลตฟอร์มงานแสดงสินค้าใหญ่ อินโฟม่า มาร์เก็ตส์ เป็นหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย
แต่ละปี SWD วางแผนธุรกิจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศรวม 7 งาน เช่น ตลาดเอเชียจะไปฮ่องกงส่วนยุโรปไปเมืองวิเซนซา อิตาลี ในเมืองไทย ปี 2566 เตรียมเข้าร่วมจัดแสดงสินค้างาน“Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2023” (JGAB 2023) ระหว่าง 26-29 เมษายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นางสาวสุมิตรา กล่าวว่าการเข้าร่วมงาน “Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2023” (JGAB 2023) จะช่วยต่อยอดธุรกิจได้เป็นอย่างดี หลังไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเต็มร้อยเปอร์เซนต์ ผนวกกับงาน JGAB มีชื่อเสียงเป็นรู้จักในระดับสากลทั่วโลก ช่วยให้ผู้ซื้อเลือกเดินทางมาร่วมงานในไทย สร้างผลดีกับธุรกิจของ SWD และผู้ประกอบการอัญมณีในไทยรายอื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ บริษัท SWD ดำเนินธุรกิจค้าขายพลอยมากว่า 4 ทศวรรษ หรือกว่า 40 ปี จากการก่อตั้งของบิดาคือ นายวิโรฒทศศิลาพร ร่วมกับ นายสมชัย เลิศมณีแดง ช่วยกันบุกเบิกธุรกิจลงทุนซื้อพลอยเจียระไนแล้วจากแหล่งพลอยจังหวัดจันทบุรีแล้วนำมาจำหน่ายต่อด้วยการคงจุดเด่นของบริษัทไว้จนทำให้ชื่อของ SWD ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ โดยได้รักษาคุณภาพสินค้าเกรดระดับสูง พลอยแต่ละเม็ดจะปรับปรุงคุณภาพจัดกลุ่มสินค้าเป็นอย่างดี ทำให้ง่ายต่อการนำไปขึ้นรูปผลิตเครื่องประดับตามความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
ปัจจุบันบริษัทใช้กลยุทธ์จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งกำเนิดพลอยชั้นนำจากต่างประเทศ เช่น ศรีลังกา พม่า โมแซมบิคแล้วส่งให้ช่างฝีมือผลิต จึงทำให้ SWD มีสินค้าหลักอย่าง Ruby, Blue Sapphire, Pink saphire และพลอยหลากสีสัน เช่น สีเขียว เหลือง ฟ้าอ่อน ชมพู ม่วง เรียกรวมเป็น Fancy Sapphire SWD จะขายต่อให้กับคู่ค้าโดยเฉพาะร้านจิวเวลรี่ที่เป็นสัดส่วนกว่า 90%
เนื่องจากขณะนี้จังหวัดจันทบุรีมีไม่ใช่เหมืองพลอยที่สามารถขุดหาวัตถุดิบได้มากเหมือนอดีต แต่ก็ยังคงเป็นแหล่งรวมช่างฝีมือด้านการเผาและเจียระไนพลอยที่มีคุณภาพระดับโลก บริษัทจึงจำเป็นจะต้องหันไปพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบพลอยจากต่างประเทศ แต่ได้วางกลยุทธ์เพื่อให้ไทยยังคงเป็นประเทศผู้นำการส่งออกอัญมณีอันดับต้น ๆ ของเอเชียต่อไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen