ดาวโจนส์ปิดลบ 45 จุด กังวลดอกเบี้ยสูง-ผลประกอบการต่ำ

  • นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาไม่สวยเท่าที่คาเ
  • ตลาดเลื่อนการคาดการณ?ธนาคารกลางสหรัฐฯเริ่มลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.
  • นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดวันนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งตัวผันผวนแคบๆ นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 17เม.ย.ที่ 37,753.31 จุด ลดลง 45.66 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,022.21 จุด ลดลง 29.20 จุด หรือ -0.58% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,683.37 จุด ลดลง 181.88 จุด หรือ -1.15%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.71% และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลง 0.8% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวขึ้น 2.08% และ 0.46% ตามลำดับ

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณครั้งล่าสุดในเวทีการเสวนาที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 เม.ย.) ว่า เฟดอาจจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าการคาดการณ์

ขณะที่เฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวเล็กน้อยในช่วงปลายเดือนก.พ.จนถึงต้นเดือนเม.ย. และบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ของสหรัฐมีความกังวลว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้ออาจเผชิญกับภาวะชะงักงัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ของเฟดออกไปเป็นเดือนก.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. หลังการแสดงความเห็นของนายพาวเวล โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 84.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 41.2% เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้

ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงเกินคาดทำให่ความหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเริ่มมีน้อยลง ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง โดยปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูสถานการณ์

นักลงทุนยังผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเยียน

ทราเวลเลอร์ส คอมพานี (Travelers Companies) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ส่งผลให้ราคาหุ้นทราเวลเลอร์ส ดิ่งลง 7.41%

หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส (Abbott Laboratories) ซึ่งเป็นบริษัทด้านสุขภาพ ร่วงลงกว่า 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการรายปีที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์

หุ้นเจบี ฮันต์ ทรานสปอร์ต เซอร์วิส (JB Hunt Transport Services) ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 8.12% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าคาด

หุ้นยูเอส แบงคอร์ป (U.S. Bancorp) ร่วงลง หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1 ลดลง 22% และปรับลดคาดการณ์รายได้จากอัตราดอกเบี้ยในปีงบการเงิน 2567

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นอินวิเดีย ร่วงลงเกือบ 4% ขณะที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ หุ้นแอปเปิ้ล และหุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐช่วยให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงลบ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.59% หลังจากมีรายงานว่าการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปีเป็นไปอย่างคึกคัก