นักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 3 วัน หลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- นักลงทุนมีแรงซื้อเข้ามาในตลาด หลังราคาหุ้นลดลงต่ำต่อเนื่องหลายวันติดกัน
- ตลาดยังคงมีความกังวลดอกเบี้ยสูง แต่ตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นช่วยให้กำลังใจดีขึ้น
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พลิกลดลง หลังพุ่งสูงมาหลายเดือน
เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 39,251.25 จุด เพิ่มขึ้น
124.11 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.32% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 5,243.06 จุด เพิ่มขึ้น 31.57 จุด หรือ 0.61% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 16,405.18 จุด เพิ่มขึ้น 127.73 จุด หรือ 0.78%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/2567 แต่ราคาหุ้นที่ลดลงแรง ทำให้เริ่มมีแรงช้อนซื้อกลับเข้ามาในตลาด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพลิกปรับตัวลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.323% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.471%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง ชะลอตัวจากระดับ 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%